โควิดภูเก็ต ระลอกใหม่พ่นพิษ นายกโรงแรมไทยภาคใต้เชื่อปีนี้เผาจริง ท่องเที่ยวทรุดหนัก และจะซบเซายาวถึงปี 2567 ผู้ประกอบการโรงแรมเตรียมปิดอีกรอบ บางส่วนยกธงขาวยอมแพ้ เทขายธุรกิจ

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 ม.ค.นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว หลังมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ว่า การการท่องเที่ยวชะงักงันไปหมด ซึ่งสังเกตได้จากการจองสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันที่ไม่ลดลงเลย ที่ผ่านมาอาจจะมีจองเข้ามา แต่ถือว่าเป็นกลุ่มที่น้อยมาก ทำให้ขณะนี้ในส่วนของโรงแรมที่เปิดให้บริการก่อนหน้านี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 300 โรงแรมกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะกลับมาปิดตัวอีกรอบ เพราะไม่สามารถที่จะสู้ต่อไป และเชื่อว่าการระบาดระลอกใหม่ไม่น่าจะกินเวลาต่ำกว่า 1 เดือน เพราะดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ยังมีแนวโน้มการระบาดต่อเนื่อง แม้ว่าในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ณ เวลานี้จะไม่พบผู้ป่วย แต่คนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต เป็นคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดที่มีการระบาดของโรค ทำให้คนไม่ออกเดินทางท่องเที่ยว

...

นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการพิจารณาเรื่องของการกลับมาปิดโรงแรมอีกรอบนั้น จากการสอบถามโรงแรมในพื้นที่พบว่า มีบางส่วนที่มีแนวโน้มสูงที่จะปิด โดยขณะนี้ได้มีการสอบถามไปประมาณ 10 โรงแรม พบว่าในจำนวน 10 โรงแรม มีถึง 3 โรงแรมที่ยืนยันว่าจะปิดตัวอีกครั้งแน่นอน เนื่องจากไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกวันได้ เพราะที่ผ่านมา การเปิดให้บริการรับภาระขาดทุนอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักบ้าง แต่ในส่วนของโรงแรมเองมีการแข่งขันกันสูงมากในการอัดโปรโมชั่นกันอย่างเต็มที่ จนไม่ได้อะไรอยู่แล้ว บางโรงแรมทานอาหารครบ 2 พัน พักฟรี 1 คืน ซึ่งการกลับมาปิดโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คิดว่าเป็น 10 โรงแรมแน่ แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจำนวนเท่าไร

นายก้องศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่นั้น คิดว่าน่าจะมีผลกระทบไปจนถึงปี 67 จากเดิมที่เรามองว่าการท่องเที่ยวภูเก็ตน่าจะเริ่มกลับมาประมาณปลายปี 64 และเริ่มดีขึ้นในปี 65 แต่เมื่อมีการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถจบได้เร็ว ความหวังที่การท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวก็ต้องเลื่อนออกไป คิดว่าน่าจะซบไปถึงปี 67 แม้ว่า ขณะนี้คนไทยเริ่มจะคุ้นชินกับโรคระบาดแล้วก็ตาม แต่การตัดสินใจไปท่องเที่ยวยังต้องรอเพื่อให้เกิดความพร้อม และความมั่นใจมากที่สุด

หลังจากนี้เชื่อว่าคนยังไม่มีอารมณ์ที่จะท่องเที่ยว ประกอบกับนักท่องเที่ยวคนไทยที่เป็นตลาดหลักเป็นคนที่มาจากกรุงเทพฯ แต่ ณ เวลานี้พื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีผู้ติดเชื้อและมีการขอความร่วมมือห้ามเดินทางเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นอีก 27 จังหวัด ย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน หรือแม้แต่เจ้าของโรงแรมเองก็คิดหนักในการรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้คล้ายกับการระบาดรอบแรกที่การเดินทางไปไหนคนก็จะต้องคอยระวัง 

นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตปีนี้ว่า คิดว่าถึงขีดสุดแล้ว นับเป็นการเผาจริงแล้ว หลังจากปีที่แล้วเป็นการเผาหลอก เพราะปีนี้นับว่าทุกธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวตายจริงๆ ตายทุกกลุ่มไม่ว่าคนที่มีสายป่านยาว หรือสายป่านสั้น ปีนี้ตายเหมือนกัน และเชื่อว่าถ้าภาครัฐไม่เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการต่อลมหายใจด้วยการช่วยเหลือในเรื่องของเงินกู้ soft loan และมาตรการในเรื่องของการพักชำระหนี้ รวมทั้งมาตรการเรื่องของดอกเบี้ย โดยการไปคุยกับธนาคารต่างๆ เพื่อให้ขยายมาตรการช่วยเหลือออกไปอีกซึ่งจะเป็นการต่อลมหายใจให้แก่ผู้ประกอบการ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ เชื่อว่าในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรม และเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวจำนวนมาก อาจจะต้องยกธงขาว เพื่อยอมแพ้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่สามารถเดินต่อไปได้แล้ว

...

"ในปีนี้เราอาจจะเห็นเจ้าของโรงแรมยอมเทขายโรงแรมจำนวนมากขึ้น ซึ่งอาจจะยอมถึงขั้นการลดราคา 50-60% ยอมขาดทุน เพราะไม่สามารถจะเดินต่อไปได้จริงๆ เพราะก่อนหน้านี้คาดการณ์กันว่าอาจจะใช้เวลาแค่ 2 ปี ก็น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่แล้ว อาจจะต้องใช้เวลานานมากขึ้นจนถึงปี 67 ซึ่งปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวหายไปมาก จากตรวจสอบตัวเลขนักท่องเที่ยวผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต พบว่า ลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ทำให้การท่องเที่ยวยังไม่สามารถไปต่อได้" นายก้องเกียรติ กล่าว.