เค้นสอบหนุ่มโหดรัวฆ่าแฟนสาวข้าราชการสำนักปลัด กทม.หมกศพในรถเก๋งจอดทิ้งข้างทาง จ.สุราษฎร์ธานี ยอมเปิดปากสารภาพชนวนเหตุจากหญิงจับได้ว่าไม่ได้ร่ำรวยเหมือนที่คุยโม้ตอนคบกันใหม่ๆ เป็นเพียงคนขี่รถ จยย.รับจ้าง ไม่ใช่เจ้าของสวนตามที่บอกแฟนสาว จนมีปากเสียงทะเลาะกันบนรถ ฉุนฟิวส์ขาดลงมือทำร้ายก่อนชักปืนรัวกระหน่ำ 5 นัดซ้อน ตำรวจพาไปตามหาปืนของกลางที่โยนทิ้งข้างทางแต่ยังไม่เจอ ประสานตำรวจนครบาลเช็กภาพวงจรปิดที่ผู้ต้องหาอ้างว่าแฟนสาวขับรถไปรับที่ที่พัก ยังไม่เชื่อคำให้การอาจขู่บังคับฝ่ายหญิงให้ขึ้นรถไปด้วยกัน
หลังจากตำรวจจับกุมนายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี หนุ่มโหดจ่อยิง 5 นัดปลิดชีพ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือเอ้ สีห์ราช อายุ 35 ปี แฟนสาว เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตคารถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งอยู่ริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) บ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี มีชาวบ้านพบศพเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ธ.ค. ตำรวจขอหมายศาลติดตามจับกุมตัวนายโอชาได้ที่บ้านเกิดใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่าทำปืนลั่นใส่แฟนสาวจนเสียชีวิต แล้วให้น้องชายขับรถมารับพากลับบ้านกระทั่งถูกตำรวจตามไปจับกุม
ความคืบหน้าที่ กก.สส.ก.จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 22 ธ.ค. พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส. ภ.จ.สุราษฎร์ธานี นำตัวนายโอชามาเค้นสอบปากคำเพิ่มเติมถึงข้อเท็จจริงและชนวนเหตุในการสังหารแฟนสาว ในที่สุดนายโอชายอมเปิดปากสารภาพว่า เพิ่งคบหากับผู้ตายได้ไม่กี่เดือน วันเกิดเหตุ 19 ธ.ค.เวลา 09.00 น. ผู้ตายขับรถเก๋งไปหาตนที่ห้องพักในกรุงเทพฯ จากนั้นตนเปลี่ยนมาเป็นคนขับพาผู้ตายมุ่งหน้ากลับบ้านเกิดของตนใน จ.นครศรีธรรมราช แต่ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง เนื่องจากตอนที่คบกันใหม่ๆได้โกหกผู้ตายว่า ตัวเองเป็นคนฐานะดีและมีสวนอยู่ที่บ้านเกิด แต่ภายหลังแฟนสาวจับได้ว่าตนมีอาชีพเพียงขี่รถ จยย.รับจ้าง ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนที่พูดคุยกันไว้ ผู้ตายโทรศัพท์ปรึกษาครอบครัวว่าโดนหลอกลวง ทำให้มีปากเสียงกัน
...
นายโอชาให้การต่อไปว่า ด้วยความโมโหจึงลงมือทำร้ายร่างกายแฟนสาวก่อนชักปืน .38 ออกมาจ่อยิง 5 นัดซ้อนจนเสียชีวิตบริเวณ จ.สมุทรสงคราม จากนั้นนำเสื้อแจ็กเกตมาคลุมร่างผู้ตายและใส่หน้ากากอนามัยจัดท่าทางเหมือนคนนั่งหลับ ขับรถมุ่งหน้าลงใต้ เอาปืนไปโยนทิ้งบริเวณแยกวังมะนาวต่อเนื่อง จ.เพชรบุรี ขับรถไปกับศพนานกว่า 6 ชม. กระทั่งถึง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จอดรถทิ้งไว้ริมถนน โทรศัพท์ บอกน้องชายว่าทำปืนลั่นใส่แฟนสาวเสียชีวิตและให้น้องชายขับรถมารับพากลับบ้าน ก่อนถูกตำรวจจับกุม เบื้องต้นนายโอชาถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ดำเนินคดี
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 23 ธ.ค. ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำตัวนายโอชาไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุที่อ้างว่าโยนทิ้งบริเวณแยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ต่อเนื่องไปถึง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี แต่ผู้ต้องหายืนยันจุดที่ทิ้งปืนไม่ชัดเจน ตำรวจพานั่งรถตระเวนตามเส้นทางตลอดทั้งวันยังไม่เจอปืนของกลางแต่อย่างใด ขณะที่ พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปประสานตำรวจนครบาลขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่พักของนายโอชา ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ที่อ้างว่าผู้ตายขับรถเก๋งไปหาก่อนจะพากันเดินทางลงใต้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา อาจเป็นการขู่บังคับพาผู้ตายให้เดินทางไปด้วยกันหรือไม่