ปฏิบัติการรื้อขนำอ่าวบ้านดอนวันแรก 5 หลัง ไร้การลงชะแลง เจ้าของขนำโร่แสดงตัวทั้ง 5 หลัง ร่วมทั้ง "หมอก้อง" เจออ่วม 3 ข้อหา ผิด พ.ร.บ.น่านน้ำไทย พ.ร.ก.ประมง ละเมิดคำสั่งปกครอง นำตัวดำเนินคดี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เวลา 09.00 น.วันที่ 1 ก.ย. พล.ร.ท.สำเริง จันทโส ผู้บัญชาการกองเรือภาค 2 ในฐาน ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 พร้อมด้วย นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธุ์กุล ประมงจังหวัด นายกรกฤธ ฉัตรวงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ประกอบ อส. ตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครอง ทหารเรือ เจ้าท่าฯ ประมง พร้อมอุปกรณ์ก่อสร้างรื้อถอน เข้ารื้อถอนขนำที่พักบริเวณอ่าวบ้านดอนในพื้นที่ ต.บางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตามมาตราการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และบุกบุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอนจากการเพาะเลี้ยงหอยแครง

การปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เพาะเลี้ยงหอยแครงในอ่าวบ้านดอน วันแรกมีเป้าหมาย จำนวน 5 หลัง โดยมีการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ไปตามเป้าหมายต่างๆ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงเป้าหมายซึ่งเป็นขนำหลังใหญ่หลังคาสีแดง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ 1 เจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลไปปิดแสดงไว้ ปรากฏว่ามีนายสุรพล อินทรวารี อายุ 56 ปี หรือ หมอก้อง มาแสดงตัวเป็นเจ้าของขนำ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ความผิดตาม พ.ร.บ.น่านน้ำไทย ฐาน ก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ตามมาตรา 117 ความผิด พ.ร.ก.ประมง 2558 มาตรา 62 ฐานความผิด สร้างสิ่งปลูกสร้าง ลงในที่จับสัตว์น้ำ อันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำให้ผิดไปจากสภาพเดิม และความผิดฐานละเมิดคำสั่งทางปกครอง เบื้องต้นนายสุรพล ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อสอบสวนปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมาย

...

สำหรับความผิดตามมาตรา 117 พ.ร.บ.น่านน้ำไทย จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตามจำนวนพื้นที่ที่กระทำผิดตารางเมตรละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความความผิดฐานละเมิดคำสั่งทางปกครอง โทษปรับตารางเมตรละไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน ไปจนกว่าการรื้อถอนจะแล้วเสร็จ ซึ่งกรณีขนำของนายสุรพล มีพื้นที่ก่อสร้างรวม 266 ตารางเมตร หากมีการปรับสูงสุดคิดเป็นเงินประมาณ 5.3 ล้านบาท ขณะที่ความผิดตามมาตรา 62 พรก.ประมง ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ไม่เกิน 1 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในการเปิดปฏิบัติการรื้อถอนขนำของศรชล ตามเป้าหมายจำนวน 5 หลังนั้น ปรากฏว่ามีผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของทั้ง 5 หลังในขณะกำลังรื้อ และเตรียมการรื้อ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของสำนักงานประมงจังวัดสุราษฎร์ธานี แลเจ้าท่าส่วนภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของขนำทั้ง 5 ราย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้านนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงจะใช้กฎหมายประมงจัดการให้พื้นที่อ่าวบ้านดอนให้เป็นพื้นที่สาธารณะ แล้วให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ร่วมกันสร้างกลไกบริหารจัดการให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ หรือจัดการตามความเหมาะสม

ด้าน พล.ร.ท.สำเริง จันทโส ผู้บัญชาการกองเรือภาค 2 กล่าวว่า เป้าหมายการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในอ่าวบ้านดอน ที่ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษและปิดหมายไว้แล้ว จำนวน 176 หลัง และยังคงมีการสำรวจร้องทุกข์กล่าวโทษ ขณะนี้ในพื้นที่อ่าวบ้านดอน ดำเนินการรื้อถอนด้วยผู้ครอบครองเองจำนวน 69 หลัง ซึ่งปฏิบัติการในวันนี้มีผู้มาแสดงตนพิ่มอีก 5 หลัง ส่วนที่เหลือ หากผู้ครอบครองมีความประสงค์แสดงตนก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา เพื่อเข้าสู่กระบวนการชั้นศาลต่อไป