ผบช.สตม. ติวเข้มมาตรการ SOP ตำรวจ ตม.-ผู้ประกอบการ นำคณะลงพื้นที่เกาะสมุยหวังจัดการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การกำหนดรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ STANDARD OPERATION PROCEDURES (SOP) ภายใต้นิวนอร์มอล เนื่องจากโควิด-19 โดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ และ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ตันประเสริฐ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พีรวัฒน์ บุญลอย ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ช่วยราชการ สตม. และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.สุราษฎร์ธานี และคณะเข้าร่วม

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า หลังการระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและดำรงชีวิตปกติของประชาชน ทำให้วิถีการดำรงชีวิตปกติเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เพื่อให้การทำงานของตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองมีความปลอดภัย ดำรงไว้ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด จึงแต่งตั้งคณะทำงานการกำหนดรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ หรือ STANDARD OPERATION PROCEDURES ภายใต้นิวนอร์มอลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมอบหมายให้ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตรวจคนเข้าเมืองเป็นประธานคณะทำงานเพื่อกำหนดกรอบแนวทางรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติให้ครอบคลุมตามหน้าที่ความรับผิดชอบในสายงานต่างๆ

ทั้งนี้ ตนให้ความสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด สตม. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ซึ่งเกาะสมุยมีความเหมาะสมทั้งทางด้านกายภาพและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า เพื่อจัดทำแนวทางรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ นอกจากนี้ยังให้ตำรวจ ตม. ช่วยเหลือสังคม เข้าร่วมกิจกรรมโครงการจิตอาสาพัฒนา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรและชุมชนอีกด้วย

...

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันแม้จะยังไม่มีกำหนดจาก ศบค. จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยได้เมื่อใด แต่ตำรวจ ตม. ต้องเตรียมความพร้อมทุกๆ ด้านเพราะทำงานของ สตม. เกี่ยวกับการเข้าประเทศของคนต่างชาติโดยตรง เกาะสมุยนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยม จึงต้องมีการมาประชุมเพื่อกำหนดรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ หรือ SOP ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โรงแรม สถานบริการต่างๆ และร้านอาหาร ให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะหากมีการเปิดการท่องเที่ยวเป็นปกติไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดของโควิด-19 กลับมาระบาดอีก ซึ่งการรองรับนักท่องเที่ยวนั้นต้องมีการเตรียมตัวหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้เอาประสบการณ์ในการเผชิญโรคในช่วงที่ผ่านมามาปรับใช้ เช่น การติดตามตัวหรือสืบสวนโรคย้อนหลัง เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ