ชุดปส.ตำรวจหาดใหญ่ บุกจับเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ ปรากฏว่าตัวการหนีรอด ทิ้งเมียสาววัย 22 ปีไว้กับถ้วยโจ๊กที่ตักมาให้ผัวกิน โดนจับพร้อมยาบ้ากว่า 2 หมื่นเม็ด บอกยอมรับชะตากรรม เพราะได้เลือกแล้วที่จะลงลำเดียวกัน
วันที่ 28 ก.ค. เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชุดตะวัน นำโดย พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส. สั่งการให้ ร.ต.อ.พงศ์ศักดิ์ หนูบูรณ์ รอง สว. หน.ชปส. ปฏิบัติการสายฟ้าแลบเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 34 หมู่ 7 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 เป็นที่จำหน่ายและเก็บยาเสพติดจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าทางประตูหลังบ้าน เนื่องจากประตูหน้าบ้านถูกปิดเอาไว้ ปรากฏว่า นายสมภพ ไชยมิตร หรือน้อย อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ได้ไหวตัววิ่งหลบหนีออกไปทางประตูหน้าบ้านได้ทัน และอาศัยความชำนาญพื้นที่หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด ยอมทิ้ง น.ส.กิตติมา รณการ อายุ 22 ปี หรือกระถิน ภรรยาสาวให้ถูกจับแทน ขณะนั่งอยู่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับโจ๊กในถ้วยที่ น.ส.กิตติมา อุ่นให้นายสมภพ สามีกิน แต่ยังกินไม่หมดก็ถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมเสียก่อน เป็นโจ๊กมื้อสุดท้ายที่ได้ทำให้สามีกิน
...
ขณะถูกจับ น.ส.กิตติมา ยอมรับผิดและยิ้มทั้งน้ำตา พร้อมกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะอยู่พักใหญ่ ยอมรับในชะตากรรม โดยเจ้าหน้าที่พบไอซ์ 28 กรัมที่ใส่ถุงแบ่งขายวางอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว และนำตัวไปค้นที่ห้องนอน พบยาบ้าอีก 10,004 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า
นอกจากนี้ น.ส.กระถิน ยังยอมบอกที่ซ่อนของยาบ้า และพาเจ้าหน้าที่ไปค้นอีก 1 จุด พบซุกซ่อนอยู่ในท่อลอดข้างบ้านเลขที่ 40 ม.7 ต.คลองแห ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของนายสมภพ โดยเจ้าหน้าที่ต้องมุดท่อเข้าไปตรวจค้นภายใน พบยาบ้าอีก 10,000 เม็ดอยู่ในกระเป๋า
จากการสอบสวน น.ส.กิตติมา หรือกระถิน ยังให้การอีกว่า ครั้งล่าสุดสามีได้ไปรับยาบ้ามาจำนวน 100,000 เม็ด ทยอยส่งให้กับลูกค้าไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่เพียง 20,000 เม็ด โดยปกติจะไม่เก็บไว้ที่บ้าน แต่ครั้งนี้พลาด เพราะช่วงนี้ฝนตกนำไปส่งให้ลูกค้าไม่ได้ และนำมาเก็บไว้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นจับกุม
ทั้งนี้ หลังถูกจับกุม น.ส.กิตติมา ยอมรับผิดและไม่โกรธตำรวจที่เข้าจับกุม เพราะเลือกทางเดินนี้แล้ว รวมถึงไม่โกรธสามีที่หนีไปและทิ้งให้ตนถูกจับเพียงคนเดียว เพราะคุยกับสามีตลอดว่า เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็จะไปให้ถึงฝั่ง “ได้เลือกเขาแล้ว แต่สุดท้ายเมื่อเขาไม่เลือกเรา ก็ขอให้เขาหนีให้รอด”
น.ส.กิตติมา ยังบอกด้วยว่า นายสมภพ สามีนั้น เพิ่งออกจากคุกมาได้ 1 เดือน หลังถูกจับกุมคดียาเสพติด ทีแรกก็ไม่ได้รักได้ชอบ เพราะคบหากับเพื่อนของตนอยู่ก่อนแล้ว แต่พักหลังเขาเลิกรากัน จึงหันมาคบกับตน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสามีค้ายา ตอนคบกันใหม่ๆ สามีก็ระแวงว่าตนเป็นสายให้ตำรวจ แต่ได้พิสูจน์ตัวเองจนเชื่อใจและร่วมกันค้ายาเสพติดมาตลอด กระทั่งถูกจับกุม
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เนื่องจากตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะด้วย.