ผู้บริโภคผลไม้ในสุราษฎร์ธานี ให้ความสนใจผลไม้เกรดพรีเมียมจากลำพูนและพะเยา ทั้งมะม่วงและลิ้นจี่ เกือบ 9,000 กก. หลังเกษตรกรส่งออกต่างประเทศไม่ได้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 เปิดขาย 3 ชม.หมดเกลี้ยง
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.63 นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พาณิชย์จังหวัด ทหาร มทบ.45 ผู้อำนวยการพัฒนาที่ดินเขต 11 สุราษฎร์ธานี ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการกระจายผลไม้จากภาคเหนือที่นำเข้ามาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงมหาชนก มะม่วงพันธุ์ขุนศรี จากจังหวัดลำพูน และลิ้นจี่ จาก จ.พะเยา รวมน้ำหนักเกือบ 9,000 กิโลกรัม
หลังผลไม้เกรดพรีเมียมจากภาคเหนือจำนวนดังกล่าวถูกส่งตรงมาจากสหกรณ์และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดพะเยาและจังหวัดลำพูน ตามโครงการ MOU ในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะวิกฤติโรคโควิด-19 จนไม่สามารถส่งออกมะม่วงไปยังตลาดต่างประเทศได้ และมีพ่อค้าจำนวนน้อยที่จะเข้ามารับซื้อ ทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ
...
สหกรณ์และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ประสบปัญหาจากภาวะโควิด-19 ได้ประสานมาทางสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการร่วมช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการกระจายสินค้าผ่านเครือข่ายสหกรณ์ โดยให้สหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์สินค้าของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและของภาคใต้ โดยสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้บูรณาการร่วมกับสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด ประสานส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ช่วยกันซื้อมะม่วงเกรดพรีเมียมในราคา 3 กิโลกรัม 100 บาท และลิ้นจี่กิโลกรัมละ 60 บาท รวมน้ำหนัก 9,000 กิโลกรัม ตามโครงการพี่ช่วยน้อง น้องช่วยพี่
ด้านนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การนำผลไม้มาจำหน่ายในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและส่วนราชการในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างมาก และมีการจองล่วงหน้าไว้เกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งการนำมาจำหน่ายในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ผลไม้ทั้งหมดได้มีผู้บริโภคมารับไปจนหมดเกลี้ยง.