พบศพสาวสวย เจ้าของร้านอาหารที่ตรัง ผูกคอกับฐานแอร์ลาโลกในร้าน ด้านแม่คนตายเผย ลูกสาวน่าจะเครียดจากปัญหารุมเร้า ทั้งภาวะเศรษฐกิจยุคโควิด-19 ทำรายได้ถดถอย กับแฟนเก่าที่ยังคงตามราวีขู่ฆ่า

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63 ร.ต.อ.วิชิต รัตนธรรมโม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุพบศพหญิงผูกคอเสียชีวิตภายในร้านอาหาร ป.ปู ผัดไทยกุ้งสดกระเพาะปลา ใกล้กับสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง ตั้งอยู่บนถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมตำรวจชุดสายตรวจอินทรีย์ แพทย์เวร รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนห้องแถวชั้นเดียวติดกัน 2 ห้อง ปลูกติดกันหลายคูหา พบบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนของผู้ตายยืนร้องไห้ระงม ภายในห้องครัวพบศพ น.ส.ภูษณิศา สันติมิตร หรือ เจ๊ปู อายุ 38 ปี ชาวบ้าน ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว แขวนคอตัวเองด้วยเชือกไนล่อน เสียชีวิตติดกับฐานคอมเพรสเซอร์แอร์ เหนือเคาน์เตอร์ ในสภาพลิ้นจุกปาก ขาขวาพาดอยู่บนเคาน์เตอร์ จากการตรวจสอบร่างกายเบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด ภายในบ้านไม่พบร่องรอยการรื้อค้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

...

จากการสอบสวน นางศุภวรรณ บริพันธุ์ อายุ 66 ปี ชาวบ้าน ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง มารดาของผู้ตาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ในร้านอาหารดังกล่าวเพียงลำพัง โดยเป็นบ้านที่ลูกพี่ลูกน้องปล่อยให้เช่าทำเป็นร้านอาหาร เปิดร้านมาประมาณ 6 ปีแล้ว ขณะที่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ยายของผู้ตายได้เข้ามาตะโกนเรียกเนื่องจากเห็นว่ายังไม่เปิดร้าน ก่อนจะไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินเข้าไปทางประตูหลังบ้าน ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ก่อนหน้านี้ลูกสาวก็มีบ่นให้ตนเองฟังอยู่เสมอว่าช่วงนี้ร้านขายไม่ค่อยได้ไม่มีลูกค้า ทำให้รายได้ถดถอยลง เนื่องจากภาวะโควิด-19 ประกอบกับเครียดเรื่องแฟนหนุ่มที่เคยแต่งงานและมีครอบครัวก่อนจะหย่าร้างกันไปแล้ว และลูกสาวได้คบหากับแฟนหนุ่มคนใหม่ แต่ปรากฏว่าแฟนเก่ายังคงตามมาราวีไม่ยอมที่จะเลิกรา แถมข่มขู่ว่าจะบีบคอให้ตายอีกด้วย อีกทั้งบ้านหลังดังกล่าวไม่มีใครเข้าออกนอกจากญาติ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องส่วนตัว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ร้านไม่ค่อยมีลูกค้า แต่อย่างไรก็ตามทางญาติยังคงติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดหาสาเหตุการตายอีกครั้งที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.