ผู้ว่าฯเมืองคอน เผยหลังกรมควบคุมโรค แถลงพบคนไทยป่วย "โควิด" เพิ่ม 4 ราย ระบุ 1 ใน 4 เป็น นศ.ไทย ชาว จ.นครศรีธรรมราช เรียนอยู่อิหร่าน เพิ่งเดินทางกลับบ้านเกิด 27 ก.พ.ที่ผ่านมา เผยผู้ป่วยเที่ยวในจังหวัดหลายแห่ง ล่าสุดประสานผู้ร่วมเดินทาง ทั้งบน "เครื่องบิน-รถทัวร์-ผู้ใกล้ชิด" พบแพทย์ตรวจร่างกายเกือบครบแล้ว สั่งมาตรการสกัดขั้นสูงสุด 

ผู้สื่อข่าวรายงาน 5 มี.ค.63 นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวภายภายหลังจากที่กรมควบคุมโรคได้แถลงว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 4 รายในวันนี้ โดย 1 ใน 4 เป็นชาวนครศรีธรรมราช ซึ่งสาเหตุที่ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัด ไม่ได้มีการแถลงหรือประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบนั้น เนื่องจากต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการตรวจสอบโรคอย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยรายนี้เข้าตรวจที่โรงพยาบาลท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นทางโรงพยาบาลได้รับตัวไว้ และดำเนินการตามเกณฑ์คนไข้กลุ่มเสี่ยง

โดยได้ทำการเจาะเลือดคนไข้ พร้อมผลการตรวจของโรงพยาบาลท่าศาลา ส่งไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กทม. กระทั่งในวันนี้ทางโรงพยาบาลจุฬาฯได้ยืนยันผลการตรวจซ้ำว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงได้แถลงอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากผลการตรวจที่ชัดเจนออกมา

นายศิริพัฒ กล่าวต่อว่า การตรวจเบื้องต้นนับแต่คนไข้เข้าพบแพทย์ ที่ รพ.ท่าศาลา พบว่า ผลการตรวจเลือดเป็นบวก ลักษณะอาการโดยทั่วไปใกล้เคียงกับผู้ป่วยโรคนี้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันหรือแถลงข่าวได้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจซ้ำของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อผลตรวจซ้ำออกมาว่าใช่หรือผู้ป่วยติดเชื้อนี้ จึงจะสามารถแถลงหรือประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันได้ ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้ใช้มาตรการป้องกันและสกัดกั้นการระบาดหรือแพร่กระจายโรคขั้นสูงสุด

...

ในขณะที่รายงานการเข้าตรวจร่างกายของผู้ป่วยรายนี้ ระบุว่า เป็นชายอายุ 20 ปี นับถือศาสนาอิสลาม เป็นชาว ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศอิหร่าน เดินทางโดยเครื่องบินโดยสารจากประเทศอิหร่านกลับเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 ก.พ.63 และเดินทางโดยรถทัวร์จาก กทม.กลับบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช

ระหว่างที่กลับบ้านนั้น ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆภายในจังหวัดหลายแห่ง ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตาม ผู้ร่วมเดินทาง ทั้งบนเครื่องบิน รถทัวร์โดยสาร และผู้ที่ร่วมกิจกรรมใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ หลังจากที่ผู้ป่วยเดินทางกลับมาจากประเทศอิหร่าน ซึ่งการติดตามตัวผู้ร่วมเดินทางและผู้ใกล้ชิดนั้น ล่าสุดสามารถติดตามตัวเพื่อให้ไปพบแพทย์และตรวจร่างกาย ได้เกือบครบแล้ว