ฉาวอีกพนักงานห้ามล้อ รฟท.ปลุกปล้ำ เมียตำรวจบนตู้นอน หลังเดินทางมากับลูกสาววัย 12ปี นอนอยู่เตียงเดียวกัน อ้างนอนด้วยกันไม่ได้ทำใจดีอาสาพาไปนอนอีกตู้ ฉวยจังหวะเหยื่อสาวกำลังเคลิ้มหลับใช้ผ้าห่มคลุมกอดปล้ำหมายขืนใจ เหยื่อดิ้นหลุดวิ่งหนีกลับไปหาลูกสาว ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือจนตำรวจรถไฟเข้ามาดูแลล็อกตัวหนุ่มหื่นไว้ ประสานตำรวจท้องที่รับตัวไปดำเนินคดีฐานกระทำอนาจาร แต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างแค่นำผ้าห่มไปให้ ขณะที่เหยื่อสาวยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด หากพนักงานทำอย่างนี้เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารหญิง หากถูกข่มขืนจะชดใช้ได้หรือไม่

พนักงานห้าม รฟท.หื่นปลุกปล้ำเมียตำรวจบนรถไฟรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่สถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีพนักงานรถไฟปลุกปล้ำผู้โดยสารกำลังถูกควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี พบ น.ส.เก้ากภา เกื้อสังข์ อายุ 50 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมพ่อแม่กำลังรอผู้เสียหายที่เป็นน้องสาว ทราบชื่อนางภมรวรรณ เกื้อสังข์ อายุ 28 ปี อยู่กับสามีเป็นตำรวจ สน.ธรรมศาลา กรุงเทพฯ แจ้งว่าน้องสาวเดินทางมากับลูกสาวอายุ 12 ขวบ ด้วยรถด่วนขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช หมายเลข 85 เพื่อมาเยี่ยมพ่อแม่ ระหว่างทางถูกพนักงานบนขบวนรถปลุกปล้ำ จึงมารอรับเพื่อพาไปแจ้งความดำเนินคดี

กระทั่งรถขบวนดังกล่าวเข้าเทียบชานชาลา ญาติๆเข้าไปรับนางภมรวรรณกับลูกสาว สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย ขณะที่คนร้ายทราบชื่อนายณัฐนันท์ วีระสมเกียรติ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/671 หมู่ 13 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นพนักงานห้ามล้อและตรวจตั๋ว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถูก ร.ต.อ.กรัณย์พล สีหะสิงห์ ตำรวจรถไฟประจำขบวนรถกับพวก คุมตัวลงทางด้านหน้าขบวนรถนำไปควบคุมตัวที่สถานีตำรวจรถไฟทุ่งสง

...

นางภมรวรรณ ผู้เสียหายสาว เปิดเผยว่า ตนกับลูกสาวไปขึ้นรถไฟสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ อ.ทุ่งสง โดยซื้อตั๋วรวมอยู่ตู้นอนที่ 10 ที่นั่งเบอร์ 17 และได้นอนอยู่เตียงเดียวกับลูกสาว ระหว่างนั้นนายณัฐนันท์มาตรวจตั๋วแจ้งว่านอนได้เตียงละ 1 คนเท่านั้น พร้อมอาสาจะช่วยหาที่นอนให้ หลังจากครู่หนึ่งก็ย้อนกลับมาแจ้งว่าได้ที่นอนแล้วพาไปอีกตู้หนึ่งอยู่ถัดไป 3 ตู้ และจัดเครื่องนอนให้เรียบร้อย ตนไม่คิดระแวงเพราะไม่มีอะไรผิดปกติ

สาวผู้เสียหายกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นพักใหญ่ ตนเริ่มเคลิ้มหลับ นายณัฐนันท์ย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ใช้ผ้าห่มคลุมร่างนอนทับตนแล้วปลุกปล้ำหมายขืนใจ ตนดิ้นรนจนหลุดวิ่งหนีไปหาลูกสาว นายณัฐนันท์ห้ามไม่ให้วิ่งหนีหลอกว่าประตูตู้นอนปิดล็อกแล้วแต่ตนไม่เชื่อวิ่งกลับไปจนถึงตู้นอนที่ลูกสาวอยู่ ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือ จนผู้โดยสารอื่นๆแจ้งตำรวจเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ ล็อกตัวนายณัฐนันท์ไว้ได้

ต่อมานางภมรวรรณ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อิฎฐา บัวแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง ส่วนนายณัฐนันท์ตำรวจรถไฟประสานสายตรวจ สภ.ทุ่งสง รับตัวมาที่โรงพัก นางภมรวรรณให้การว่าถูกนายณัฐนันท์ปลุกปล้ำบนขบวนรถ ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย แจ้งข้อหากระทำอนาจาร นายณัฐนันท์ให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำตามที่ผู้เสียหายระบุ อ้างว่านำผ้าห่มไปให้เท่านั้น หลังสอบสวนได้นำไปถ่ายรูปทำประวัติก่อนปล่อยตัวกลับไปโดยไม่ต้องประกันตัว เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่หลบหนี

จากนั้นนางภมรวรรณ ผู้เสียหายสาว เปิดเผยอย่างมีอารมณ์ว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเนื่องจากรถไฟเป็นรถสาธารณะ มีผู้คนใช้บริการมาก หากพนักงานทำอย่างนี้เป็นอันตรายกับผู้โดยสารที่เป็นหญิงเดินทางตามลำพัง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากถูกข่มขืนความเสียหายอย่างนี้จะชดใช้อย่างไร ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนกับทาง รฟท.แล้ว

เหตุผู้โดยสารสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศบนรถไฟกลายเป็นข่าวใหญ่นำมาซึ่งความสลดใจของประชาชนทั้งประเทศมาแล้ว กรณีนายวันชัย หรือเกม แสงขาว อายุ 21 ปี ขณะนั้น เป็นลูกจ้างของการรถไฟฯ บนขบวนรถ ข่มขืนฆ่า “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปี บนตู้นอนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ก่อนโยนร่างเหยื่อทิ้งทางหน้าต่างรถไฟในพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ก.ค.57 ศาลพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตนายวันชัย ส่วนเพื่อนที่รู้เห็นให้การช่วยเหลือสนับสนุน ศาลพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี