ฝูง "แมงกะพรุน" นับหมื่นตัวต่อวันส่งผลกระทบต่อแปลงปลูกสาหร่ายทะเลของชาวบ้าน ในพื้นที่เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ทำให้สาหร่ายเริ่มมีกลิ่นเหม็น เพราะมีน้ำเน่าเสียจากการแปรรูปลงสู่ทะเล...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค. นายสะวร บุญหาส่ง อายุ 45 ปีอยู่บ้านเลขที่ 17/5 ม.5 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้มีเกษตรกรนับ 100 ราย ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว ได้หันมาปลูกสาหร่ายทะเลเพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศ โดยพ่อค้าคนกลางจากต่างประเทศมารับซื้อถึงที่โดยได้ฝึกอบรมให้ชาวบ้านให้มี ความรู้เรื่องการเพาะเลี้ยงสาหร่ายมานานนับปี จนสามารถเพาะเลี้ยงได้แล้วนับ 100 แปลง และถือว่าได้ประสบผลสำเร็จเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งผลผลิตบางส่วนสามารถเก็บขายได้แล้ว
นายสะวร กล่าวต่อว่า แต่ขณะนี้พบปัญหาแมงกะพรุนจานที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำวันละนับหมื่นตัว ทำให้เมือกของแมงกะพรุนลอยมาติดที่สาหร่าย จนเกิดกลิ่นเน่าเหม็น ประกอบกับน้ำเสียจากการแปรรูปแมงกะพรุนที่ถูกทิ้งลงทะเลเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนผสมของเกลือ สารส้ม และโซดาบางชนิด ส่งผลให้ชาวบ้านเกิดความกังวลใจเนื่องจากทำให้สาหร่ายมีกลิ่นเหม็นตามไปด้วย จึงขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลบริเวณที่พบแมงกะพรุนจำนวนมาก ตั้งแต่บ้านแหลมมะขาม บ้านปากคลอง จนถึงบ้านแหลมไทร ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา อย่างเร่งด่วน ซึ่งนับตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาถึงวันนี้ ยังมีการตักแมงกะพรุนขายมานานกว่า 1 เดือนแล้ว และหากไม่มีปัญหาเรื่องแมงกะพรุน จะทำให้ชาวบ้านเริ่มมีรายได้จากการขายสาหร่ายทะเลเดือนละไม่ต่ำกว่า 7,000-8,000 บาท
นอกจากนี้ นายสะวร กล่าวอีกว่า การเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลภายในหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านไม่ต้องเสี่ยงกับการออก ไปทำนอกบ้าน และไม่ต้องเสี่ยงกับช่วงฤดูมรสุมเนื่องจากแปลงสาหร่ายอยู่ใกล้บ้านใช้เวลาไป กลับไม่ถึง 20 นาที ซึ่งตัวสาหร่ายกินน้ำเสียเป็นอาหาร ทำให้เป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย แต่ขณะนี้อยากให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนที่จะ สร้างความเสียหายให้กับแปลงปลูกสาหร่ายของชาวบ้านนับ 100 แปลงในอนาคตอันใกล้.
...