เป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิตผู้คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝีมือของกลุ่มโจรใต้แบ่งแยกดินแดนใช้อาวุธสงครามบุกยิงถล่มฐานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ช่วงดึกวันที่ 5 พ.ย. ผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ต่างเป็นชาวบ้านผู้คนในพื้นที่ที่เสียสละและอุทิศตัวเองเพื่อดูแลความสงบสุขของหมู่บ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ ศอ.บต. เร่งรัดดูแลเยียวยาครอบครัวญาติผู้สูญเสีย กำชับฝ่ายความมั่นคงปรับแผนการทำงานเพิ่มความเข้ม และให้ตำรวจเร่งรัดสืบสวนไล่ล่าคนร้าย
“บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับไม่ได้กับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น คนร้ายก่อเหตุกับอาสาสมัครชาวบ้าน ผู้ที่เสียสละมาเข้าเวรช่วยป้องกันภัยของหมู่บ้าน บินด่วนลงใต้ดูพื้นที่เกิดเหตุ เรียกประชุมทีมงานร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จ.ยะลา ให้เร่งรัดสืบสวน ติดตาม คนร้าย และให้กำลังใจพี่น้องประชาชนคนในพื้นที่ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ไม่ให้ เสียขวัญกำลังใจ
...
ตำรวจพบข้อมูลว่า ช่วงดึกคืนก่อนเกิดเหตุชุด ชรบ. จำนวน 20 นาย ปฏิบัติหน้าที่ที่ฐานมีเสียงระเบิดดังขึ้นห่างฐานประมาณ 400 เมตร ก่อนกลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มโจรใต้ ไม่ต่ำกว่า 10 คน อาวุธปืนครบมือ อาศัยความมืดและฝนตกย่องเข้าไปใกล้ฐาน ชรบ. ใช้อาวุธสงครามกราดยิงถล่มอาสาสมัครหมู่บ้านที่ไม่ทันตั้งตัว ต่างหลบเข้าที่กำบัง พยายามใช้อาวุธปืนเท่าที่มีอยู่ในฐานยิงตอบโต้กลุ่มคนร้าย เกิดการปะทะกันดุเดือด
กลุ่มคนร้ายอาศัยชัยภูมิที่ได้เปรียบ และอาวุธปืนที่มีอานุภาพรุนแรงกว่ายิงถล่มฐานที่มีชาวบ้านส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต หลังสิ้นเสียงปืน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยิงต่อสู้กระสุนปืนหมด กลุ่มคนร้ายเข้าไปสำรวจในฐานปลดเอาปืนของเจ้าหน้าที่ไป 8 กระบอก เจ้าหน้าที่บางคนที่ได้รับบาดเจ็บ นอนนิ่งแกล้งตาย ไม่ให้คนร้ายยิงซ้ำ
แท่งปูนเป็นกำแพงบังเกอร์ของฐานถูกกระสุนปืนยิงถล่มเป็นรูพรุน รถกระบะ 4 คัน และรถ จยย. 3 คัน ถูกยิงได้รับความเสียหาย มีรอยเลือดสาดกระจายเต็มพื้น พบปลอกกระสุนปืนอาก้า เอ็ม 16 และลูกซองตกอยู่เกลื่อนกลาดนับร้อยปลอกในที่เกิดเหตุเป็นผลงานความป่าเถื่อนของกลุ่มโจรใต้
หลังเกิดเหตุกำลังตำรวจ ทหาร และ อส.พยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ระหว่างทางคนร้ายให้กลุ่มแนวร่วมเผายางรถยนต์ โปรยตะปูเรือใบบนถนนทางเข้าจุดเกิดเหตุหลายจุดเพื่อสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือลำเลียงคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาล หน่วยกู้ภัยต้องเปลี่ยนเส้นทาง แต่ในทุกเส้นทางคนร้ายโปรยตะปูเรือใบ มีรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยบางคันชนกับต้นไม้ที่คนร้ายตัดขวางถนน จนยางแตก ต้องเปลี่ยนยางกลางถนน ท่ามกลางความเสี่ยง
ชุดกู้ภัยไม่ท้อ เร่งช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตและคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลได้ทันแบบทุลักทุเล มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 11 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ถูกช่วยเหลือลำเลียงส่ง รพ.ศูนย์ยะลา เสียชีวิตในเวลาต่อมาอีก 4 ศพ รวมมีผู้เสียชีวิต 15 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 5 คน
เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและรุนแรงที่สุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2547 กลุ่มโจรใต้ได้รุกคืบเย้ยกฎหมาย บุกปล้นปืนค่ายทหาร รัฐบาลสมัยนั้นสั่งระดมกำลังทหารตำรวจเข้ากวาดล้างกลุ่มโจรใต้ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทวีความรุนแรง สูญเสียชีวิตทหาร ตำรวจ ครู พระสงฆ์ ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์มากกว่า 7,000 ราย ถูกลอบวางระเบิด ยิงถล่ม ดักทำร้าย มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ครั้งนี้ผู้เสียชีวิตเป็นอาสาสมัครป้องกันภัยของหมู่บ้าน กลุ่มโจรใต้เชื่อว่าเป็นคนที่แจ้งเบาะแสตำรวจ ทหารในพื้นที่ ชุดกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือรับไม่ได้กับภาพที่รุนแรงขนาดนี้ ผู้เสียชีวิตนอนเกลื่อนที่เกิดเหตุ คนร้ายอำมหิตป่าเถื่อน วางระเบิด ทิ้งตะปูโรยเต็มถนนเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เข้าช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
เป็นความป่าเถื่อนของรูปแบบปฏิบัติการที่คนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี
แบ่งหน้าที่กันทำ บางกลุ่มทำหน้าที่เป็นชุดยิงถล่ม ชุดลอบวางระเบิด และชุดจรยุทธ์เผายางรถยนต์ คาดว่าเป็นการประกาศศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและแนวร่วมอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.ลำพะยา ต.ลำใหม่ ต.ยะลา อ.เมืองยะลา และพื้นที่รอยต่อ อ.ยะหา มีข้อมูลทางการข่าวพบว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายฮูไบดีละห์ รอมือลี แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.ยะหา อ.กาบัง และนายอหมัด ตืองะ แกนนำก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.ลำใหม่ ต.ลิดล ต.เปาะเส้ง อ.เมืองยะลา นำกำลังเด็กวัยรุ่นกลุ่ม “คนหน้าขาว” ที่ไม่เคยมีประวัติในพื้นที่ร่วมปฏิบัติการตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่วิสามัญคนร้าย 2 ศพ ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
...
ขยายผลช่วง ส.ค. จับกุมเครือข่ายวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ กทม. ช่วงการประชุมอาเซียน และกลุ่มโจรปล้นร้านทองพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ อ.จะนะ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ก่อนเกิดเหตุมีข่าวการประชุมลับรัฐบาลกับแกนนำกลุ่มที่อ้างเป็นตัวแทนโจรใต้ แต่รัฐบาลไม่รับข้อเรียกร้อง จนมีข่าวกลุ่มโจรใต้ประชุมวางแผนปฏิบัติการ ตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ ยกระดับความรุนแรง นำไปสู่เงื่อนไขเจรจา
กลุ่มโจรใต้หวังสร้างภาพข่าวทำให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศตื่นตกใจ ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีการทำร้ายผู้บริสุทธิ์มากมายขนาดนี้ ครั้งล่าสุดที่เกิดเหตุรุนแรงต้องย้อนไปในช่วงปี 2547
ที่สำคัญความสูญเสียชุด ชรบ.เป็นชาวบ้าน กลางวันทำงาน กลางคืนอาสาสมัครมาช่วยกันดูแลหมู่บ้าน คนร้ายรู้ข้อมูลเหล่านี้ดี รู้พื้นที่ รู้จุดอ่อน เป็นเป้าหมายหลักที่ผู้ก่อเหตุเลือกเป้าหมายลงมือสร้างสถานการณ์
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “ขอแสดง ความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และขอประณามการกระทำของกลุ่มคนร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความห่วงใยกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ได้สั่งให้ดูแลคดีใกล้ชิด ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุโดยเน้นย้ำ 1.กำชับสร้างความเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ยังสามารถดูแลคุ้มครองพี่น้องในพื้นที่อย่างดีที่สุด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ 2.ต้องให้ความสำคัญกับการรับฟังข่าว แจ้งเตือนว่าจะมีผู้ก่อเหตุ เตรียมป้องกัน 3.ลดการกระทำของฝ่ายตรงข้าม 4.กลับมาทบทวนสรุปบทเรียนสาเหตุปรับแผนป้องกันและระวังเหตุต่อไป 5.หน่วยหลัก 3 หน่วย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เป็นหลัก ประสานความร่วมมือเพื่อประสิทธิภาพ 6.ทันทีที่เกิดเหตุจะต้องจับกุมคนร้าย ให้เร็วที่สุด ทุกวิถีทาง ขอยืนยันว่าตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดี ไม่ปล่อยให้ใครมาอยู่เหนือกฎหมายได้”
...
เหตุการณ์ความรุนแรงป่าเถื่อนของกลุ่มโจรใต้ที่ก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เสียสละความสุขส่วนตัวสมัครใจออกมาดูแลหมู่บ้าน และการวางแผนสกัดกั้นชุดกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลทุกวิถีทาง เป็นเรื่องที่คนไทยรับไม่ได้
ชาวบ้านคนในพื้นที่กำลังเสียขวัญหวาดกลัว กับเหตุรุนแรงที่กลุ่มโจรใต้สร้างภาพทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่กล้ามาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ แต่ยังดีที่มีภาพ “บิ๊กแป๊ะ” ผู้นำตำรวจที่นายกฯให้ลงพื้นที่เร่งรัดติดตามคดีทันที
เรียกขวัญและกำลังใจชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ อยู่ในพื้นที่กลับคืนมา.
ทีมข่าวอาชญากรรม