พบซากพะยูนเกยตื้นตายบนเกาะลิบง ครองสถิติสูงสุดตัวที่ 11 แล้วปีนี้ คาดเป็นตัวเดียวกันกับตัวที่ถูกคลื่นซัดหายไปก่อนหน้านี้ สุดเศร้า! กระดูก-ชิ้นส่วน ถูกชำแหละเกลี้ยง ขณะที่ชาวบ้านต่างวิตกตายเยอะในรอบ 60 ปี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พบซากพะยูนเกยตื้นบริเวณชายหาดบ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ก่อนจะประสานไปทาง นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นซากพะยูน ไม่ทราบเพศ ขนาดโตเต็มวัย ความยาวประมาณ 3 เมตร สภาพเน่าแล้ว มีแต่เนื้อกับผิวหนัง กระดูกและกล้ามเนื้อบางส่วนสูญหายไป คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-7 วัน โดยส่วนผิวหนังมีร่องรอยถูกของมีคมตัดเป็นแนวตามลำตัว ก่อนเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายซากมาที่ท่าเรือหาดยาว จากนั้น นายบรรชา ด้วงนุ้ย เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับว่าที่ ร.ต.อ.ปัญญา วงนวล รอง สว.(สอบสวน) สภ.กันตัง ไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน นายวิทยา มากนคร นายช่างเครื่องกล ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สบทช.10 กล่าวว่า สำหรับซากพะยูนตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นตัวเดียวกับตัวที่ประธานชมรมมัคคุเทศก์อาชีพ จ.ตรัง พบซากลอยตายอยู่กลางทะเลตรัง เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งห่างจากจุดที่พบครั้งแรกบริเวณระหว่างเกาะยา ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กับเกาะไหง จ.กระบี่ ประมาณ 20 กิโลเมตร หลังจากนี้จึงนำซากพะยูนไปผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตและชิ้นส่วนที่หายไป
ด้าน นายอี หาดเด็น อายุ 62 ปี ชาวสวน ซึ่งเป็นชาวบ้านเกาะลิบง กล่าวว่า ตนอยู่เกาะลิบงมาตั้งแต่เกิด เป็นเวลากว่า 60 ปี โดยเรื่องพะยูนตายก็เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ แต่ในรอบปีนี้ตั้งแต่เกิดมาเป็นปีที่ตนเห็นพะยูนตายมากที่สุด โดยชาวเกาะลิบงต่างคุยกันถึงเรื่องสาเหตุต่างๆ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ซึ่งตนคิดว่าปัญหาพะยูนอยู่ในขั้นวิกฤติแล้ว
...
จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ พันธุเมต อายุ 30 ปี ประธานชมรมมัคคุเทศก์อาชีพ จ.ตรัง ผู้พบซากพะยูนคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนพานักท่องเที่ยวท่องทะเลอยู่ระหว่างเกาะยา ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ห่างจากหลังเกาะเมงประมาณ 1 กม. กำลังจะมุ่งหน้าไปยังเกาะไหง ได้พบสิ่งผิดปกติบนผิวน้ำ ก็เลยสั่งกัปตันเรือวิ่งไปดูพบว่าเป็นพะยูน จึงถ่ายภาพเก็บไว้และแจ้งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แชร์ส่งตำแหน่งพบซากพะยูน และทำทุ่นผูกไว้ที่หางของพะยูนดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันระหว่างนั้นได้เกิดคลื่นพายุฝนทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงหาซากพะยูนไม่เจอ กระทั่งมาทราบว่าพบซากดังกล่าวแล้ว
แหล่งข่าวภายในระบุว่า ซากพะยูนตัวดังกล่าวตอนแรกอยู่ในสภาพลำไส้ทะลักออกมาจากหน้าท้อง แต่ในวันนี้พบว่าที่ซากพะยูนมีลักษณะของการถูกของมีคมตัดเป็นแนวตามลำตัว และกระดูกหายไปทั้งหมด มีแค่เศษเนื้อกับผิวหนังเท่านั้น เชื่อว่ามีผู้พบซากก่อนเจ้าหน้าที่ แล้วใช้ของมีคมแล่ชิ้นส่วนอวัยวะและกระดูกไป คาดว่าไปทำเครื่องรางของขลัง ตามความเชื่อที่เป็นข่าวมาก่อนหน้าแล้ว ทั้งนี้ซากพะยูนดังกล่าวนับเป็นตัวที่ 11 แล้วที่ตายในทะเลตรังฝั่งอันดามัน.