พบ "พะยูน" ลอยตายอีกตัว กลางทะเลกระบี่ เบื้องต้นพบเขี้ยวยังอยู่ครบ ไม่มีบาดแผล ส่งชันสูตร หาสาเหตุ พร้อมย้ำความเชื่อผิดๆ ตัดเขี้ยวทำเครื่องรางให้อยู่คงกระพัน
วันที่ 14 ก.ค. นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่า พบซากพะยูนขนาดใหญ่ ยาวร่วม 2 เมตร ลอยอยู่กลางทะเลระหว่าง เกาะปู กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประจำเกาะไม้ไผ่ ไปตรวจสอบ
เบื้องต้น พบว่า เป็นพะยูนยาว 2.4 เมตร น้ำหนักประมาณ 400 กิโลกรัม สภาพสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผลใดๆ เขี้ยวยังอยู่ครบ ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการตายได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อุทยาน อยู่ระหว่างการนำซากพะยูนตัวดังกล่าวไปผ่าตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ที่คณะวิทยาศาสตร์ และการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา พบพะยูนลอยตายในทะเลกระบี่แล้วรวม 4 ตัว ซึ่งตัวที่พบก่อนหน้านี้ เพิ่งพบเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณหาดนุ้ย ต.เกาะลันตา โดยพะยูนตัวที่พบบนเกาะลันตา เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเขี้ยว หรืองาของพะยูน ถูกลักลอบตัดออกไปด้วย ตามความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ที่เชื่อในเรื่องอยู่ยงคงกระพัน ซึ่งเป็นความเชื่อผิดๆ การที่พบพะยูนตายอีกตัวในครั้งนี้ จึงทำให้กลุ่มนักอนุรักษ์ เริ่มเป็นห่วงต่อสถานการณ์พะยูน สัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์อีกครั้ง โดยเกรงจะเป็นการตั้งใจล่าเพื่อตัดเขี้ยวไปทำเครื่องราง
ด้าน นายแสน ศรีงาม ประมง จ.กระบี่ กล่าวว่า สำหรับซากพะยูนตัวดังกล่าว เป็นตัวที่ 2 ติดๆ กันในเดือนนี้ ที่พบตายในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยตัวแรก พบที่ชายหาดใน ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ผลการผ่าพิสูจน์ซากพบว่า กระเพาะและลำไส้ พบสารอาหารสมบูรณ์ ไม่พบรอยช้ำหรือการถูกทำร้าย ส่วนเขี้ยวที่ถูกตัดไปนั้น สันนิษฐานว่าเป็นการตัดไปภายหลังการตาย สัตวแพทย์จึงลงความเห็นเป็นการตายอย่างเฉียบพลัน โดยผิดธรรมชาติ
...
นายแสน กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่พบซากสัตว์ทะเลหายากเช่น วาฬ โลมา เต่า และพะยูนบ่อยครั้ง ในทะเล จ.กระบี่ ในช่วงนี้ สืบเนื่องจาก อยู่ในช่วงมรสุม เมื่อสัตว์ในทะเลเกิดการตาย ก็จะถูกคลื่นซัดลอยมาเกยตื้นที่ฝั่ง จ.กระบี่ ซึ่งพะยูนตัวที่พบล่าสุดนี้ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่นำซากไปผ่าพิสูจน์ที่คณะวิทยาศาสตร์ และการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้.