"สงขลา" พลิกผืนนาร้าง โดยกรมพัฒนาที่ดินฟื้นฟูปลูกข้าว-ปาล์มน้ำมัน ช่วยเกษตรกรชายแดนใต้ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติมั่นคง มั่งคง ยั่งยืน...


น.ส.เบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ลงพื้นที่พบเกษตรกรโครงการฟื้นฟูนาร้าง ต.คู อ.จะนะ จ.สงขลา เนื่อจากข้อมูลปี 2561 พื้นที่นาจังหวัดสงขลาถูกทิ้งร้าง ไม่มีการใช้ประโยชน์ใดๆ มากว่า 50,000 ไร่ ปัญหานาร้างในพื้นที่เกิดจากสาเหตุขาดแคลนแรงงานครัวเรือน การผลิตข้าวยังใช้วิถีดั้งเดิม ขาดการจัดการทางวิชาการ และเทคโนโลยี ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเสียหายจากโรคพืช และศัตรูพืช ผลผลิตที่ได้ต่ำ เกษตรกรจึงไม่ทำนา ออกไปยังภาคการรับจ้างแรงงาน และค้าขาย

โครงการพัฒนาชายแดนใต้ที่รัฐบาลสนับสนุนให้เกษตรกรมีอาหารบริโภคและเพิ่มรายได้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและอาชีพในพื้นที่ชายแดนใต้ จึงมีการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างให้เกษตรกรใช้ที่ดิน ในบริเวณพื้นที่ลุ่มเหมาะสมสำหรับปลูกข้าวและปาล์มน้ำมัน กรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ดำเนินการตั้งแต่ปี 2553-2561 ให้เกษตรปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 22,551.75 ไร่ และ ปลูกข้าว 36,659.50 ไร่ ในพื้นที่ 3 อำเภอ จะนะ เทพา และสะบ้าย้อย

...

ปี 2562 เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่นาร้างปลูกข้าวจังหวัดสงขลา จำนวน 815 ราย พื้นที่ 4,500 ไร่ สำหรับ อำเภอจะนะ ต.คู มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการ 59 ราย 174.5 ไร่ เนื่องจากเห็นความสำเร็จจากพื้นที่ใกล้เคียงที่เข้าร่วมโครงการฯ ก่อนหน้านี้ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรจัดทำแผนการฟื้นฟูพื้นที่ โดยร่วมทำแผนปฏิบัติการการใช้ที่ดินระยะยาว 3 ปี โดยมีพืชหมุนเวียน พืชบำรุงดิน และผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว รวมกลุ่มผลิตพืชเพื่อลดต้นทุน ทำการตลาด และแปรรูปเพิ่มมูลค่า นายฮาหมีดและนายซะเบด เกษตรกรในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลว่าข้าวที่ปลูกกินเองเป็นข้าวที่มีรสชาติอร่อยกว่าข้าวท้องตลาด โดยเฉพาะพันธุ์พื้นเมือง เช่น พันธุ์ลูกปลา ลูกนาก เล็บนก

ทั้งนี้ ผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการเข้าพื้นที่พบเกษตรกรแบบชนิดจับเข่าคุย เป็นการให้กำลังใจ และกระตุ้นให้เกิดพลังขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเกษตรกรจับมือกันร่วมคิด ร่วมทำ แก้ปัญหา อย่างต่อเนื่อง เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติมั่นคง มั่งคง ยั่งยืน.