4 คนร้ายสวมไอ้โม่ง บุกปล้นผัวเมียเท้าแชร์รายใหญ่ ใส่ทองเต็มตัว ถึงบ้านพัก จับใส่กุญแจมือ มัดมือเท้า ปลดเกลี้ยง 23 บาท พ่ออดีตตำรวจ ได้ยินเสียง เข้าใจว่าทะเลาะกัน เลยไม่ได้ออกมาดู...
เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (6 ธ.ค.) ร.ต.อ.(หญิง) จิตตินันท์ สุวรรณชาตรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์ที่บ้าน ซอยข้างวัดชัยชุมพล ในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย ผกก., พ.ต.ท.เนติวุฒิ ดีแก้ว รอง ผกก.(ป), พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วแสน รอง ผกก.(สส), พ.ต.ท.ปฏิวัติ ขุนรัง สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านตึกแถวติดกัน 3 ห้อง เจ้าหน้าที่พบ นายอนันต์ ผาสุข อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน นุ่งกางเกงขายาวสีเทา ไม่สวมเสื้อ มือสองข้างถูกสวมกุญแจมือไพล่หลัง ยืนอยูที่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงช่วยไขกุญแจมือให้ จากนั้นเมื่อเข้าไปในบ้านพบ น.ส.เพชรฤดี ผาสุข อายุ 35 ปี ภรรยานายอนันต์ ถูกคนร้ายจับมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกไนล่อน นอนดิ้นอยู่ จึงช่วยกันแก้เชือกออก
สอบสวนนายอนันต์ และ น.ส.เพชรฤดี ให้การด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกลับมาจากทำธุระข้างนอก พอเข้ามาถึงในบ้านยังไม่ทันปิดประตูบ้าน มีคนร้าย 4 คน ใช้รถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดห่างจากบ้านไปประมาณ 20 เมตร จากนั้นคนร้าย 3 คน สวมหมวกแบบไอ้โม่ง ตรงเข้ามาในบ้าน ส่วนอีก 1 คนอยู่ในรถ ติดเครื่องรออยู่
จากนั้นคนร้ายไม่พูดพล่ามทำเพลง ชักอาวุธปืนพกขึ้นมาขู่ไม่ให้ขัดขืน พร้อมเอาปืนตีศีรษะนายอนันต์ และตบหน้า น.ส.เพชรฤดี ก่อนจับมือนายอนันต์ไพล่หลังใส่กุญแจมือ ใช้เชือกไนล่อนมัดมือมัดเท้า น.ส.เพชรฤดี บังคับให้นอนคว่ำหน้า
...
จากนั้นคนร้ายได้ช่วยกันปลดเอาทรัพย์สินที่ทั้ง 2 คนสวมใส่ออก โดยของนายอนันต์ มีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น เลสข้อมือ หนัก 5 บาท 1 เส้น ของ น.ส.เพชรฤดี มีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น เลสข้อมือหนัก 5 บาท 1 เส้น แหวนทองคำหนักวงละ 1 บาท 2 วง ก่อนเข้าไปยังห้องนอน ค้นทรัพย์สินได้แหวนทองคำ 1 วง หนัก 1 บาท เงินสดกว่า 1,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก่อนหลบหนีไป โดยล็อกประตูบ้านด้านนอกไว้
ต่อมานายอนันต์ได้ออกมาทางด้านหลังบ้าน แจ้งให้ ร.ต.ต.อำพร มหาสุข อายุ 69 ปี บิดา อดีตตำรวจ สภ.ทุ่งสง ที่อยู่ห้องติดกันทราบ และแจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุ
ในขณะที่ ร.ต.ต.อำพร กล่าวว่า ในขณะที่คนร้ายบุกปล้น ตนได้ยินมีเสียงคล้ายทะเลาะกัน แต่เข้าใจว่าลูกชายมีปากเสียงกับภรรยา จึงไม่ได้สนใจ หลังจากสอบปากคำเจ้าทรัพย์แล้ว ทางตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้าย แต่ไม่พบวี่แวว
พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วแสน รอง ผกก.(สส.) กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายอนันต์ และ น.ส.เพชรฤดี 2 ผัวเมีย มีอาชีพค้าขาย และเป็นเท้าแชร์รายใหญ่จำนวนหลายวง มีลูกค้าจำนวนมาก วงเงินนับล้านบาท สำหรับคนร้ายเชื่อว่าน่าจะเป็นลูกแชร์รายใดรายหนึ่งที่มาส่งแชร์เป็นประจำ รู้ความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนเป็นอย่างดี และเห็นว่าทั้งคู่ใส่ทอง เหมือนตู้ทองเคลื่อนที่ จึงหาโอกาสบุกปล้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.