โชว์ภาพจำลอง แจงกงสุลใหญ่ จ่อฟันเว็บหมิ่น

ตำรวจเข้าชี้แจงกงสุลใหญ่อังกฤษ ประมวลจำลองเหตุการณ์ และสอบพยานในจุดเกิดเหตุ สรุปได้ว่าแหม่มสาวชาวอังกฤษไม่ได้ถูกวางยาและข่มขืน เร่งประสานผู้เสียหายมาให้ปากคำหวั่นคดีจะหมดอายุความพร้อมลงดาบเจ้าของ 2 เพจดัง แชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ส่งผลให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย

ตำรวจเร่งหาความจริงที่ น.ส.อิสเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ อายุ 19 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อ้างว่าถูกคนร้ายวางยา ลักทรัพย์ และข่มขืน บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย. แต่ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน เฉพาะทรัพย์สินที่หายไปเท่านั้น ไม่ได้แจ้งเรื่องการถูกข่มขืน ขณะที่ตำรวจลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ และตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ยังไม่พบข้อมูลเหตุข่มขืนตามที่อ้างไว้

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ส.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตั้งคณะทำงานรวบรวมหลักฐานตามคำกล่าวอ้างของผู้เสียหาย ประกอบด้วย สภ.เกาะพะงัน สภ.เกาะเต่า และ กก.สอบสวน ภ.จ.สุราษฎร์ธานี รวม 50 นาย ตรวจสอบพื้นที่ตามเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสาวเริ่มออกจากโรงแรมที่พักในซอยทรายรี สู่ชายหาดอ้างว่าเป็นจุดที่ถูกข่มขืน พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบรวม 48 จุด เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดโดยเร็ว

...

ด้าน พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.เกาะเต่า ออกหนังสือผ่าน บช.ภ.8 แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ช่วยประสานไปยังผู้เสียหายให้มาให้ปากคำ พร้อมอธิบายถึงข้อกฎหมายของไทย เกี่ยวกับอายุความของคดีจะครบกำหนดในวันที่ 25 ก.ย.2561 นับแต่วันเกิดเหตุที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างกับสื่อที่ประเทศอังกฤษ ตำรวจมีความจำเป็นต้องสอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงการตรวจร่างกายทางการแพทย์ หากผู้เสียหายไม่สะดวกที่จะเดินทางมาภายในอายุความ สามารถให้สถานเอกอัครราชทูต สหราชอาณาจักรเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้คดีความหมดอายุ

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รอง ผบช.สพฐ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าพบนายพอล เคย์ กงสุลใหญ่ประจำ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เพื่อนำรายงานข้อเท็จจริงชี้แจงกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษปรากฏเป็นข่าวว่าถูกข่มขืน

ภายหลังการเข้าพบ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบให้ตนนำหนังสือจาก ผบ.ตร. เป็นรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเสนอต่อกงสุลใหญ่ โดยสรุปได้ว่าการตรวจสอบตามคำสั่งของ ผบ.ตร. ถือว่าจบสมบูรณ์แบบ สามารถยืนยันได้ว่าจากร่องรอยวัตถุพยานการสอบปากคำพยาน และการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงตามสภาพแวดล้อม รวมทั้งตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มี พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รอง ผบช.สพฐ นำทีมงานลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า การตรวจสอบจำลองเหตุการณ์ตามรายละเอียดที่ผู้เสียหายระบุว่า รู้สึกเหมือนถูกมอมยาอยู่ที่ร้านลีโอ บาร์ ถูกอุ้มมาข่มขืนที่บริเวณลานหิน จปร. จุดดังกล่าวมีระยะห่าง 300 เมตร ตรวจสอบน้ำขึ้นน้ำลงปรากฏว่า ในคืนวันเกิดเหตุเป็นวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 เป็นช่วงถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลบอลโลก ผู้เสียหายอ้างว่า นั่งดื่มอยู่ที่ริมหาด แต่จากการสอบปากคำพยาน ตรวจสอบระดับน้ำขึ้นน้ำลงพบว่าห้วงเวลาดังกล่าวระดับน้ำสูงถึง 400 เมตร ระดับน้ำขึ้นมาจนถึงฝั่ง ไม่มีใครสามารถนั่งดื่มที่บริเวณนั้น ประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สรุปได้ว่าไม่มีการวางยาและการข่มขืนเกิดขึ้น

...

รอง ผบช.ทท.กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการที่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความนั้น จากการตรวจสอบไม่มีการแจ้งข่มขืน มีแต่การแจ้งเรื่องทรัพย์สินสูญหาย ขอยืนยันว่าจะไม่ปกป้องเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีที่ระบุว่า แม่ของ ผู้เสียหายจะเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีนั้น แม่ของผู้เสียหายไม่ใช่พยานบุคคลที่สำคัญ จึงไม่มีผลต่อรูปคดี ทั้งนี้จะออกหมายจับเจ้าของ 2 เพจ คือเพจสมุยไทม์ และเพจ CSI LA โพสต์ข้อความเหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสียทางด้านการท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศไทย ขณะนี้สามารถพิสูจน์ตัวตนของเจ้าของเพจได้แล้ว คาดว่าน่าจะออกหมายจับภายในวันที่ 30 ส.ค.นี้ แจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมทั้งคนแชร์ข้อมูลมีความผิดด้วย จะออกหมายเรียกเข้ามาให้ข้อมูล

“การพูดคุยในครั้งนี้ ทางกงสุลใหญ่ประเทศอังกฤษประจำประเทศไทย ท่านชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ส่วนภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยจากสายตานักท่องเที่ยวอังกฤษ ยังไม่ได้รับผลกระทบ สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้ถือว่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ 100% แล้ว รอเพียงพยานหลักฐานใหม่เท่านั้น” รอง ผบช.ทท.กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ปรากฏความชัดเจน ส่วนการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทาง บช.ภ.8 จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้ว 20 ปาก ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการกระทำอย่างที่ผู้เสียหายอ้างจริงหรือไม่ กรณีนี้ถ้าไม่ได้เกิดเหตุขึ้นจริงประเทศไทยเสียหาย ต่อไปต้องดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ หรือโซเชียลต่างๆ อะไรที่ส่งผลกระทบต่อความเสียหายของประเทศชาติ ต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว

...