บึงกาฬประกาศพื้นที่ประสบภัยใน 2 อำเภอติดริมแม่น้ำโขง "พ่อเมือง" เร่งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมสั่งหลายหน่วยเฝ้าระวัง 24 ชม.

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวจากจังหวัดบึงกาฬรายงานว่า เช้านี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้เพิ่มสูงขึ้น โดยวัดได้ 12.50 เซนติเมตร สูงขึ้นจากวานนี้ 0.21 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.50 เซนติเมตร ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำโขง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านแล้ว 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า และอำเภอบึงโขงหลง บางแห่งมีระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร น้ำโขงได้หนุนลำน้ำสาขาเอ่อท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน บ้านเทพมีชัย ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร ระยะทางยาวกว่า 300 เมตร รถเล็กที่สัญจรเข้าออกหมู่บ้านต้องใช้ความระมัดระวัง

ล่าสุด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.บึงกาฬ ได้ลงพื้นที่ออกตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง พร้อมด้วยนายอำเภอบุ่งคล้า ปภ.จังหวัด เจ้าหน้าที่ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อสำรวจปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งเตรียมรับมือน้ำโขงหนุนสูง สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน

ด้าน ปภ.ได้สรุปมีพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ 6 ตำบล 26 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมกว่า 3,000 ไร่ บ่อปลา 63 บ่อ พร้อมออกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว 2 อำเภอ คืออำเภอเมืองบึงกาฬ และอำเภอบุ่งคล้า มี 4 ตำบล 21 หมู่บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบต่อไป

นายนิรัตน์ กล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬยังไม่มีน้ำท่วมในเขตชุมชนเมือง ยังระบายลงน้ำโขงได้ดี การระบายน้ำจากหนองน้ำต่างๆ ยังทำได้ช้า เนื่องจากติดน้ำโขงที่หนุนสูง และไหลย้อนเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมหนองหลายจุด ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เดินเยี่ยมและให้คำแนะนำความปลอดภัยทุกพื้นที่เสี่ยง หากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอีก หรือกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงก็พร้อมจะขนย้ายประชาชน ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ แนวโน้มระดับทรงตัว ถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยังควบคุมได้ โดยใช้แผนเผชิญเหตุที่สนธิกำลังทุกหน่วย ในรูป “ทีมบึงกาฬ” ออกปฏิบัติการร่วมกัน.

...