ศึกษาธิการ จ.สุราษฎร์ธานี เผย ผลสอบอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ทุจริตอาหารกลางวันนักเรียน พบมีมูลความจริง จึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน และดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงต่อไป...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเอกสารสรุปรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ หมู่ 17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ ถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียน สงสัยมีการทุจริตอาหารกลางวันนักเรียน และข้อสงสัยการทุจริตอื่นรวม 10 ข้อ เข้าหารือ และรายงานต่อ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ต้นสังกัด ที่พบว่าข้อร้องเรียนมีมูล จึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน และดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงต่อไป ซึ่ง นายวิชวุทย์ เห็นชอบตามที่เสนอมา
ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ต้นสังกัด ได้สืบสวนข้อเท็จจริง มีความเห็นว่า ข้อร้องเรียนมีมูลเหตุอันเชื่อได้ว่ามีการทุจริตอย่างร้ายแรง ตนจึงได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายสมเชาว์ และมีคำสั่งให้ นายสมเชาว์ ออกจากราชการไว้ก่อน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน
“ตามการสืบสวนข้อเท็จจริง พบ นายสมเชาว์ มีพฤติการณ์ทำผิดวินัยร้ายแรงใน 5 ประเด็น คือ 1. โครงการปรับปรุงซ่อมแซมไฟฟ้าภายในโรงเรียน ที่ไม่เป็นไปตามแบบพัสดุที่ยื่นขอปรับปรุง 2. โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีต ที่มีการใช้งบประมาณซ้ำซ้อน ร่วม 3 แสนบาท และยังนำเงินการกุศลไปใช้ในโครงการ 3. การขายผลผลิตปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นสวนปาล์มของโรงเรียน แต่ไม่นำเงินเข้าบัญชีโรงเรียน 4. การจัดอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนที่ไม่มีคุณภาพและเพียงพอกับนักเรียน และส่อไปในทางทุจริต และ 5. การอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มน้ำอัดลมภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นนโยบายห้ามเด็ดขาด” นายชุมพล กล่าว
...
ด้าน นายพล ศรัทโธ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กำลังเร่งสรุปสำนวนการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องอาหารกลางวันนักเรียนให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีข้อร้องเรียนอื่นที่คณะกรรมการสืบสวนต้นสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ดำเนินการ ทราบเบื้องต้นว่าพบความผิดวินัยร้ายแรงอีก 4 เรื่อง เป็นหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัดหรือโรงเรียนในฐานะนิติบุคคล ที่จะต้องมีหน้าที่แจ้งความร้องทุกข์
ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กรณีนี้สามารถดำเนินการได้ 2 ทาง แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เพื่อส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช. หรือผู้เสียหายโดยตรง สามารถเข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ประจำจังหวัด เพื่อให้เข้าตรวจสอบและดำเนินการ โดยปีการศึกษา 2561 ที่เพิ่งเปิดเรียน พบว่ามีเอกสารการเบิกจ่ายเงินค่าอาหารวันละกว่า 5,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่ามีการใช้เงินเพียงวันละ 3,000 บาท จึงเห็นว่ามีเงินจำนวนหนึ่งถูกเบียดบังออกไปจริง
วันเดียวกัน บรรดาผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ หมู่ 17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ ได้ทราบข่าวการสืบสวนข้อเท็จจริง มีมูลความจริงตามที่ผู้ปกครองร้องเรียน ได้แสดงความโล่งอกที่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยไม่ได้มีอคติส่วนตัว หรือเป็นเรื่องกลั่นแกล้งกัน
นางเอ (นามสมมติ) ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า จากเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัย ตนเอง และผู้ปกครอง พร้อมครูโรงเรียนบ้านท่าใหม่รวม 4 คน ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรท่าชนะ ซึ่ง พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.ท่าชนะ รับปากว่าจะดูแลความปลอดภัยให้เป็นอย่างดี ได้ทราบมีคำสั่งให้นายสมเชาว์ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อสอบสวนทางวินัย โดยชาวบ้านในหมู่บ้านถือว่าทางราชการได้รับรู้ปัญหา และเข้าสู่กระบวนการแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่าจะเป็นไปตามผลของการกระทำ อย่างน้อยเด็กนักเรียนที่นี่จะได้กินอาหารกลางวันที่ดีขึ้น และโรงเรียนที่อื่นๆ ก็มีการปรับปรุงอาหาร จากการสะท้อนปัญหาที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่.