ร่วมแรงร่วมใจ!! ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ส่งกำลังคุมเข้ม การขนย้ายทองคำ กลีบบัวคว่ำบัวหงาย ที่ใช้ในการบูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ พร้อมทองคำแท่งน้ำหนักรวมประมาณ 32 กิโลกรัม...
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.61 ที่ห้องนิรภัย ภายในพระวิหารธรรมศาลา วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมนึก พรหมเขียว ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยคณะกรรมการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ร่วมสังเกตการณ์การขนย้ายกลีบบัวทองคำ(บัวคว่ำบัวหงาย) น้ำหนักรวมประมาณ 18 กิโลกรัม ซึ่งกรมศิลปากรได้นำลงมาจากยอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อหลอมใหม่
จากนั้นคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องภายใต้การนำของนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังห้องนิรภัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช เพื่อรับทองคำแท่งน้ำหนักรวม 14 กิโลกรัม ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน และนำไปจัดซื้อก่อนนำไปหลอมรวมกับทองคำเก่า หรือทองคำจากกลีบบัวคว่ำบัวหงายที่นำลงมาจากยอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์ และทองคำจากผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่ที่ร่วมบริจาคอีกจำนวนประมาณ 22 กิโลกรัม เพื่อหลอมรวมกันและส่งมอบแก่กรมศิลปากรเพื่อดำเนินการรีด และจัดทำเป็นกลีบบัวทองคำ(บัวคว่ำบัวหงาย)ใหม่ และนำขึ้นไปประดับบนยอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์
ทั้งนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการบูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ พร้อมทั้งนำกลีบบัวทองคำ(บัวคว่ำบัวหงาย) องค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งชำรุดและอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์จำนวนประมาณ 18 กิโลกรัม เพื่อนำมาหลอมใหม่ ร่วมกับทองคำที่จัดซื้อเพิ่มเติมจากงบประมาณของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน จำนวน 14 กิโลกรัม และทองคำที่จัดซื้อจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่จำนวน 22 กิโลกรัม ซึ่งในส่วนของกระบวนการหลอมทองคำทั้งหมด ได้รับความศรัทธาจากทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา เป็นผู้รับผิดชอบในการหลอมทองคำโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
...
โดยเบื้องต้นจะนำทองคำมาหลอมรวมกับทองแดง ตามความต้องการของสำนักช่างสิบหมู่ เพื่อให้เป็นทองคำชนิด 96.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 - 3 วัน จากนั้นจะนำทองคำดังกล่าวไปรีดและจัดทำเป็นกลีบบัวคว่ำบัวหงาย โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เพื่อให้มีขนาดความกว้างประมาณ 10 นิ้ว และ 18 นิ้ว ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2561 การดำเนินงานทุกขั้นตอนจะแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามในขั้นตอนของการดำเนินการทั้งหมดได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการรักษาความปลอดภัย ทั้งในส่วนของการขนย้ายและเก็บรักษาในทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวด.