น้ำซัดถนนขาดรถตกทั้งคัน ภาคใต้ยังเผชิญวิกฤติหนัก!

ภาคใต้ยังอ่วมฝนตกหนัก น้ำทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ คนเมืองคอนเตรียมรับมือปักธงเหลืองเตือนเฝ้าระวังน้ำหนุน จ.สงขลา ถนนถูกน้ำซัดขาดเป็นร่องลึก หนุ่มซิ่งเก๋งเบรกไม่ทันรถร่วงไปทั้งคัน ที่กระบี่ พัทลุง และตรัง ยังวิกฤติเจ้าหน้าที่ช่วยอพยพชาวบ้านหนีน้ำ ส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เกิดดินสไลด์ปิดถนน ขณะที่ลมหนาวเหนือยอดดอยเกิดแม่คะนิ้ง นักท่องเที่ยวแห่ไปโต้ลมหนาว

สถานการณ์ฝนตกน้ำท่วมทางภาคใต้ยังวิกฤติ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ จ.สงขลา ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาเกือบ 1 สัปดาห์ ทำให้เกิดกระแสน้ำกัดเซาะถนนทางหลวงหมายเลข 43 สายสงขลา-ปัตตานี บ้านเขาน้อย หมู่ 8 ต.สะกอม อ.เทพา ทรุดตัวเป็น ระยะทางยาว 3 เมตร ลึก 3 เมตร เป็นจังหวะที่นายบุรฉัตร จันทร์ประเสริฐ อายุ 37 ปี ขับรถเก๋งซูซูกิ ซีอาส สีดำ ทะเบียน ขม 7379 สงขลา วิ่งผ่านมาแล้วเบรกไม่ทันพุ่งตกลงไปได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางชั่วคราวเพื่อรอการซ่อมแซม นายบุรฉัตรเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณตี 4 วันที่ 30 พ.ย. ขับรถจาก จ.ชุมพร เพื่อเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุไม่มีไฟส่องสว่างมองเห็นถนนขาดอยู่ด้านหน้า แต่เบรกไม่ทันทำให้รถพุ่งตกลงไปในหลุมลึก ตนต้องปีนขึ้นมารีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.เทพา ระดับน้ำสูงต่อเนื่อง ได้รับความเสียหาย 7 ตำบล 67 หมู่บ้าน 1,820 ครัวเรือน 14,400 คน และเสียชีวิต 1 ราย

จ.กระบี่ น้ำท่วมบ้านเรือนที่หมู่ 2 ต.เขาดิน อ.เขาพนม ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องไหลท่วมถนน 2 สาย ประกอบด้วย ถนนสายควนไม้แดง-นาเหนือ และถนนสายนาเหนือ-ควนม่วง ระดับน้ำสูง 50-60 ซม. รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ บ้านเรือนเสียหายกว่า 20 หลัง ส่วนที่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง น้ำท่วม 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.แหลมสอม ต.บ้านด่วน และ ต.ปะเหลียน ระดับน้ำสูง 1 เมตร ด้านนายวิเชษฐ์ คงอินทร์ กำนัน ต.ปะเหลียน เปิดเผยว่า น้ำท่วมในพื้นที่ 15 หมู่บ้าน ชาวบ้านอพยพ และย้ายสัตว์เลี้ยงไปอยู่ที่สูง บางรายไปพักอยู่บนถนนสายท่าพญา-ปะเหลียนโปะ ส่วนที่ สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน น้ำท่วมชั้น 1 ตำรวจเร่งขนย้ายอุปกรณ์สื่อสาร และสำนวนการสอบสวนไปอยู่ที่ชั้น 2

พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บังคับค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายวีระพรรณ สุขะวัลลิ ปลัดอาวุโสอำเภอสิชล นายถวิล หมื่นแก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการสำนักงาน ปภ.สาขาอำเภอสิชล เจ้าหน้าที่กู้ภัยประชาร่วมใจใต้เต็กตึ๊ง ไปตรวจสอบพร้อมกับให้ความช่วยเหลือชาวบ้านใน ต.เสาเภา และ ต.เทพราช อ.สิชล หลังเกิดพายุงวงช้างซัดถล่มในพื้นที่ บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 120 หลังคาเรือน ต้นไม้ใหญ่หักโค่นขวางถนนสายทางไปโบราณสถานเขาคา เสาไฟฟ้าล้ม 3 ต้น สวนยาง และสวนผลไม้ล้มระเนน ระนาดกว่า 100 ไร่ ชาวบ้านอพยพไปอาศัยอยู่ที่วัดเทพราช และวัดเขาคา

ขณะเดียวกัน กระแสน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50-70 ซม. โดยเฉพาะถนนสายกะโรมฝั่งออกเมืองน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว ที่ชุมชนบ่อทรัพย์ เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเร่งอพยพคนชราและผู้พิการออกจากบ้านอย่าทุลักทุเล ที่ ต.กรุงชิง อ.นพพิตำ น้ำป่าซัดคอสะพานขาด ชาวบ้านอยู่ในสภาพติดเกาะ

ด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.นครศรี-ธรรมราช เปิดเผยว่า ตรวจสอบพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วม 23 อำเภอ ขณะนี้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเบื้องต้นอำเภอละ 1 แสนบาท หากเงินไม่พอให้รายงานเพื่อจะขยายวงเงินเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมเปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ปักธงเหลืองตามลำคลองทุกสาย เพื่อเตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนกระแสข่าวลือว่าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชปิดให้บริการ สาเหตุ เกิดมาจากน้ำท่วมนั้น ไม่เป็นความจริง ทุกสายการบินยังให้บริการตามปกติ

จ.พัทลุง ฝนตกหนักน้ำท่วมในหลายอำเภอประกอบด้วย อ.บางแก้ว อ.เขาชัยสน อ.ตะโหมด อ.กงหรา และ อ.ป่าบอน มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัด ส่วนพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาประกอบด้วย อ.ควนขนุน อ.พัทลุง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และ อ.ปากพะยูน ระดับน้ำสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ถนนถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือชาวบ้านอพยพไปอยู่ที่พักชั่วคราว ที่ อ.ปากพะยูน เกิดดินโคลนถล่มบนถนนสายปากพะยูน-เกาะหมาก 2 จุด เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องจักรกลเข้าเปิดเส้นทางแล้ว

ด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.ตรัง กล่าวว่า มีพื้นที่น้ำท่วม 7 อำเภอ 3 เทศบาล 39 ตำบล 226 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 11,147 ครัวเรือน 31,984 ราย ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ 7 อำเภอ ประกอบด้วย นาโยง เมืองตรัง รัษฎา ห้วยยอด ปะเหลียน วังวิเศษ และกันตัง พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 6 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ระดับน้ำสูง 60 ซม. เจ้าหน้าที่สั่งปิดการจราจร ที่ จ.สตูล ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่หมู่ 5 บ้านโตน ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง ถนนเส้นทางไปน้ำโตนปาหนันถูกน้ำป่ากัดเซาะถนนทำให้ถนนทรุดตัว ส่วนพื้นที่บ้านวังนา หมู่ 10 ต.น้ำผุด อ.ละงู น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนระดับน้ำสูง 1-3 เมตร เสียหาย 200 หลัง
ด้านนายณัฐพงษ์ เนียมสม นายกเทศมนตรีตำบลนาตาล่วง อ.เมืองตรัง ลงพื้นที่สำรวจพนังกั้นแม่น้ำตรัง บริเวณหลังวัดไพรสณฑ์ หมู่ 4 บ้านป่าหมาก ต.นาตาล่วง หลังกระแสน้ำจากแม่น้ำตรังเอ่อล้นพนังกั้นน้ำประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่นำก้อนหินมาเทถมปิดกั้นทางน้ำที่กัดเซาะพนังกั้นแม่น้ำตรังอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาไม่ให้พนังกั้นน้ำเกิดรอยร้าวขยายวงกว้างมากกว่านี้

นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 4 อำเภอ 11 ตำบล 29 หมู่บ้าน ประกอบด้วย อ.บ้านนาสาร อ.พระแสง อ.ชัยบุรี และ อ.เวียงสระ คาดว่าน้ำจะขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ ส่วนที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี น้ำท่วมถนนหลายสายระดับน้ำสูง 50-70 ซม. บางจุดต้องปิดการจราจรชั่วคราว ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อน 73 ครัวเรือน 369 ราย

ด้าน พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิต ที่คลองบ้านเปี๊ยะ หมู่ 1 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ไปตรวจสอบน้ำในคลองเชี่ยว นักประดาน้ำลงไปงมหาร่างพบศพ ด.ช.มูฮัมหมัด ริฎวน มามุ อายุ 7 ขวบ สอบถามพ่อแม่เด็กทราบว่า ลูกชายลงไปเล่นน้ำในคลองกับเพื่อน เกิดกระแสน้ำเชี่ยวจมหายไปจนเสียชีวิต ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ปัตตานี น้ำทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมือง ปัตตานี ระดับน้ำสูง 30 ซม. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ 95 ตำบล 486 หมู่บ้าน 18 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อน 18,116 ครัวเรือน 32,514 คน เสียชีวิตรวม 5 ราย

จ.ยะลา สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังวิกฤติ พื้นที่ อ.ธารโต ฝนตกหนักทำให้เกิดดินสไลด์ถล่ม ลงมาปิดถนน ต้นไม้หักโค่น เสาไฟฟ้าล้มหลายต้น ที่ อ.บันนังสตา เกิดดินถล่มบริเวณเชิงเขาริมถนน ส่วน อ.รามัน น้ำในแม่น้ำสายบุรีเอ่อล้นเข้าท่วมเป็นวงกว้างระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ด้านนายจรัญ จันทรปาน นายอำเภอรามัน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

จ.นราธิวาส พื้นที่ราบลุ่มแนวแม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี ปริมาณน้ำในพื้นที่ต้นน้ำไหลลงมาสมทบ ไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ทัน ทำให้ระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งมีปริมาณสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนแนวแม่น้ำสุไหงโก-ลก และเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก สำหรับศูนย์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม จ.นราธิวาสสรุปพื้นที่ประสบภัย 13 อำเภอ 68 ตำบล 481 หมู่บ้าน 2 เทศบาล 42 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อน 24,705 ครัวเรือน 92,702 คน โรงเรียนปิด 54 แห่ง และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 9,650 ไร่

ขณะที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.สุไหงโก-ลก แจกจ่ายเสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ให้กับชาวบ้านนำไปดูแลสัตว์เลี้ยงสำหรับอากาศหนาวเย็นทางภาคเหนือ นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เกิดแม่คะนิ้งบนดอยอินทนนท์เป็นวันที่ 2 ของปีนี้ อุณหภูมิยอดดอยอินทนนท์บริเวณลานจอดรถหน้าหน่วยพิทักษ์ฯอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 3 องศาฯ นักท่องเที่ยวต่างแห่ขึ้นมาสัมผัสลมหนาวกันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับจุดชมทะเลหมอกบริเวณภูลังการีสอร์ต ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอกที่ติดอันดับหนึ่งใน 10 ของประเทศไทย มีทะเลหมอกเข้าปกคลุมพื้นที่บริเวณหุบเขาสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกัน และระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย