ผบ.ฉก.ปัตตานีแสดงความเสียใจกรณีเหตุปะทะ 2 ครั้งและมีคนร้ายเสียชีวิต 2 คนหลังเกิดเหตุปะทะและวิสามัญ นายเปายี ตาสะเมาะ เผยคนร้ายสารภาพเอี่ยวเหตุคาร์บอมบ์บิ๊กซี คาดเกรงต้องรับความความผิดเลยสู้ จนท.จึงถูกยิงเสียชีวิต...

จากกรณีเกิดเหตุปะทะและวิสามัญ นายเปายี ตาสะเมาะ อายุ 44 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ไปชี้จุดซุกซ่อนอาวุธปืนในสวนยางพารา ม.4 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี แต่ขณะขุดปืน นายเปายี ได้อาศัยจังหวะหยิบปืนพก ขนาด .38 ที่ซุกซ้อนในพงหญ้ายิงใส่เจ้าหน้าที่และวิ่งหลบหนี จนเกิดการยิงตอบโต้กันเป็นเหตุให้นายเปายีถูกวิสามัญเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันนี้ (14กค.)

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ก.ค.2560 ที่มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงยุทธบริหาร จ.ปัตตานี พลตรี จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 ได้ร่วมแถลงข่าวกรณีเหตุวิสามัญ นายเปายี ตาสะเมาะ จากเหตุดังกล่าว

โดย พลตรี จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุปะทะที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้งและมีคนร้ายเสียชีวิต 2 คนทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติซึ่งจริง ๆ แล้วเจ้าหน้าที่ก็พยายามใช้การปฏิบัติจากเบาไปหาหนักเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะล่าสุดเหตุวิสามัญ นายเปายี ตาสะเมาะ ก่อนจะเสียชีวิตก็ได้ถูกควบคุมตัวเนื่องจากให้ที่พักพิงกลุ่มก่อความไม่สงบ คือ นายสุดิงและพวกและจากการสอบสวนขยายผล นายเปายี รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงและแนวร่วมจริง อยู่ในกลุ่มร่วมขบวนการกับ นายมะนาเซ ไซดี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 7 หมายและคดีระเบิดคาร์บอมบิ๊กซี เมื่อวันที่ 9 พค.2560 รวมถึงยืนยันว่ารถ จยย.ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ที่บ้านพักตนเอง คือ รถ จยย.ที่ใช้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมห้างบิ๊กซีปัตตานี และเป็นผู้ทำหน้าที่ซุกซ่อนอาวุธปืนหลังมีการก่อเหตุ

...

ซึ่งจากการวิเคราะห์เหตุที่ นายเปายี ตัดสินใจยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิตนั้น อาจเป็นเพราะเกรงกลัวต่อการร่วมรับผิดในกรณีระเบิดคาร์บอมห้างบิ๊กซีปัตตานี และอาจจะถูกกลุ่มขบวนการเดียวกันฆ่าปิดปาก และหาก นายเปายีไม่ก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดหวังว่า นายเปายี น่าจะเป็นผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ และยังมีวัตถุพยานอย่างอื่นที่คาดว่าสถานที่ดังกล่าวจะเป็นแหล่งซุกซ่อนบุคคลและอาวุธ เนื่องจากได้พบแหล่งกบดานใช้เป็นที่วางแผนอยู่ในป่า ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อมั่นว่า กลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานี น่าจะเตรียมการก่อเหตุอย่างอื่นอีก ซึ่งก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยขยายผลและเก็บข้อมูลพร้อมกับวางกำลังคุมเข้มทั้ง 12 อำเภอเพื่อป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มก่อความไม่สงบ.