สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 สรุปผลสอบข้อเท็จจริงครูประจำชั้น ถูกผู้ปกครองแจ้งความข่มขืนลูกศิษย์นักเรียนหญิง ป.5 คาห้องเรียน พบมีมูลความผิด พร้อมชงเรื่องสอบวินัยร้ายแรง เล็งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ตำรวจเตรียมส่งสำนวนให้อัยการ...

จากกรณีที่มีผู้ปกครองด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความว่าลูกสาวถูกครูประจำชั้นและสอนวิชาสอนดนตรีได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ พร้อมลักพาตัวแล้วใช้อาวุธปืนข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ต่อมาผู้ต้องหา ซึ่งเป็นครูประจำชั้นได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์ และข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี พร้อมให้การปฏิเสธ ขณะเดียวกัน สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สั่งย้ายครูประจำชั้นเข้ามาช่วยราชการยังสำนักงาน สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 อย่างไม่มีกำหนด

ล่าสุด วันที่ 3 ก.ค. นายภูมิพัธ เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 มอบหมายให้นายประเสริฐ ต้นสีนนท์ รอง ผอ.สพป.เขต 2 พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกรนำเอกสารผลสรุปการสอบข้อเท็จจริงกรณีครูประจำชั้นและสอนวิชาดนตรี ถูกผู้ปกครองแจ้งความจับว่าใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์นักเรียนหญิง ชั้น ป.5 พร้อมลักพาตัวและใช้อาวุธปืนข่มขู่ยื่นต่อนายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ โดยเบื้องต้นผลการสอบของคณะกรรมการพบว่า มีมูลความผิด และเสนอเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

...

นายประเสริฐ ต้นสีนนท์ รอง ผอ.สพป.เขต 2 กล่าวว่า หลังจากมีผู้ปกครองเข้าแจ้งความว่าครูประจำชั้นได้ข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์ ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ในโรงเรียนนั้น ทางสพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และโรงเรียนต้นสังกัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับออกคำสั่งให้ครูประจำชั้นเข้ามาช่วยราชการในสำนักงาน สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งขณะนี้ผลการสืบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการเสร็จแล้ว สรุปว่ามีมูลความผิดจริง และเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง ดังนั้นทางสพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 จึงได้รวบรวมผลการสอบ พร้อมหลักฐานต่างๆ ยื่นเรื่องให้กับศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับครูประจำชั้น

ด้านนายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและรายงานจาก สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 แล้ว จากนี้จะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทันที ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.60 เนื่องจากผลสรุปของคณะกรรมการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ชัดเจนว่ามีมูลความผิดและเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง อีกทั้งยังเป็นความเสียหายต่อทางราชการ กระทบต่อนักเรียน ผู้ปกครอง และสถาบัน ทั้งนี้ ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรงหากพบบุคคลที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำ หรือเป็นอุปสรรคในการดำเนินการตรวจสอบ อีกทั้งหากเด็กยังมีความกังวลอยู่ก็จะพิจารณาออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือ พักราชการ

"เรื่องดังกล่าวถือว่ากระทบต่อความรู้สึกของสังคม ผู้ปกครอง ตัวเด็กนักเรียนเอง อีกทั้งยังกระทบต่อภาพลักษณ์ครู ผู้ที่ได้รับการยกย่องเป็นแม่พิมพ์ของชาติอย่างยิ่งอีกด้วย เพราะการที่ผู้ปกครองไว้วางใจส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในโรงเรียน แต่เด็กกลับมาประสบกับภาวะที่ไม่พึงประสงค์ และยังเป็นครูประจำชั้นที่ดูแลปกครองเด็กจึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ผิดจรรยาบรรณ ดังนั้นหากผลการสอบวินัยร้ายแรงพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะมีความผิดทางวินัยโทษสูงสุดคือไล่ออก และปลดออก อย่างไรก็ตามหากผลการสอบไม่พบความผิดก็สามารถกลับเข้ามารับราชการ และทำหน้าที่ครูได้ต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และครูผู้ถูกร้อง ส่วนการดำเนินคดีอาญาเป็นหน้าที่ของตำรวจ"

ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าในคดี ล่าสุดได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก เจ้าของคดีว่าขณะนี้ได้สอบปากคำพยานครบหมดแล้ว รวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งยังเหลือเพียงการพิมพ์รอยนิ้วมือของผู้ถูกกล่าวหา คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการภายในสัปดาห์นี้ โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี และพกพาอาวุธปืน.