ตร.ยังเดินหน้าหาหลักฐาน คดีครูแพะร้องขอรื้อคดี เตรียมเอาผิดแก๊งรับจ้างรับผิด หลังศาลสืบพยาน พบหลักฐานบันทึกของ ‘สับ วาปี ’ 2 ครั้ง 2 ท้องที่ขัดแย้งกันเอง ครั้งแรกอ้าง ‘เสริฐ รูปสะอาด’ ขับรถชน ครั้งที่ 2 พลิกไปเป็นตัวเองเป็นคนขับ... 

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร ออกมาร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม ว่าตกเป็นแพะ ต้องติดคุกในคดีขับรถยนต์ชนคนตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2548 จนศาลให้มีการรื้อคดีพิจารณาใหม่ โดยมี นายสับ วาปี จาก จ.มุกดาหาร ออกมายอมรับว่าเป็นเจ้าของรถ และเป็นคนขับรถยนต์อีซูซุ ทะเบียน กค 56 มุกดาหาร ชนคนตาย ศาลจังหวัดนครพนมนัดไต่สวนในวันที่ 8-10 ก.พ. นี้    

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และสอบพยานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่เชื่อว่า เป็นขบวนการที่ออกมารับผิดแทน ซึ่งจะมีการดำเนินคดีภายหลังศาลสืบพยาน เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของตำรวจพบเอกสารหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ นายสับ วาปี อายุ 60 ปี ชาว จ.มุกดาหาร บุคคลที่อ้างว่า เป็นคนขับรถยนต์ชนตัวจริง ในเอกสารคำให้การตำรวจ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ระบุว่า นายสุริยา นวนเจริญ ได้พา นายเสริฐ รูปสะอาด อายุ 53 ปี พร้อมด้วย นายสับ วาปี อายุ 60 ปี เข้าไปพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เรณูนคร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบในการดำเนินคดี ในปี 2548 โดยมีการยืนยันในเอกสารกับทางตำรวจว่า นายสับ วาปี เป็นเจ้าของรถยนต์อีซูซุ รุ่นเก่า สีเขียว ทะเบียน กค 56 มุกดาหาร แต่ขายให้ นายเสริฐ รูปสะอาด ไปแล้ว และยืนยันว่านายเสริฐ รูปสะอาด เป็นคนขับรถคันดังกล่าวไปเกิดอุบัติเหตุชนรถจักรยาน ทำให้ นายเหลือ พ่อบำรุง ที่ปั่นจักรยานเสียชีวิต

...

นอกจากนี้ ยังพบเอกสารการให้ปากคำ ครั้งที่ 2 ของ นายสับ วาปี อายุ 60 ปี ว่า มีการบันทึกให้ปากคำตำรวจที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 ว่า เป็นคนขับรถยนต์ กระบะอีซูซุ ทะเบียน กค 56 มุกดาหาร ชน นายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548 ซึ่งเป็นการให้ปากคำที่ไม่ตรงกัน

ยังมีหลักฐานพยานเพิ่มอีกคือ นายอุบล ไชยบัน อายุ 65 ปี ชาว จ.มุกดาหาร ที่ออกมายืนยันว่า รถยนต์ กค 56 มุกดาหาร ได้ซื้อมาใช้งานในช่วงปี 2547 และขายไปในปี 2550 พร้อมยืนยันว่าไม่เคยมีใครขับรถไปชนในปี 2548 แต่รถคันดังกล่าวเอกสารการครอบครองเป็นของ นายสับ วาปี ไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ซื้อมา เพราะสภาพรถเก่าแล้ว ซื้อขายกันธรรมดา ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะนำไปดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นขบวนการรับจ้างออกมารับทำผิดแทนในคดีนี้. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่