ผวจ.บึงกาฬ นำทีมเรียกตัวสาวใหญ่สอบ เหตุตายายถูกหลอกเช่าบ้านพร้อมที่ดินและที่นาไปจำนอง แต่สุดท้ายปล่อยขาย สารภาพทำจริง ด้านจังหวัดอนุมัติกองทุนยุติธรรม 3 หมื่น เป็นค่าทนายสู้คดี จ่อเชิญนายทุนไกล่เกลี่ย
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 60 นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พ.อ.โฆสิตพงษ์ นิลเอก ผบ.กกล.รส.จว.บึงกาฬ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการยุติธรรมจังหวัดบึงกาฬที่เกี่ยวข้อง และ พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง ผกก.สภ.ปากคาด ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาทางช่วยเหลือ นายสูง พิมพ์พันธ์ อายุ 72 ปี และ นางแพ พิมพ์พันธ์ อายุ 68 ปี สองตายาย ชาว อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ที่ถูกหลอกนำบ้าน ที่ดิน และที่นาไปขาย จนถูกประกาศไล่ที่ (ตายายร้องถูกหลอกเอาบ้าน-ที่ดิน-นาจำนอง สุดท้ายปล่อยขาย ซ้ำโดนประกาศไล่)
ทั้งนี้ นายชวมินทร์ ตรีเนตร ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เชิญตัว น.ส.ทิพย์สุดา เทพสุรีย์ อายุ 42 ปี ผู้เป็นต้นเรื่องที่เอาบ้านไปเข้าจำนองกับนายทุนในจังหวัดขอนแก่นแล้วถูกขายในวันถัดมาเข้ามาสอบถาม โดย น.ส.ทิพย์สุดา ยอมรับว่าตนกับหลานชายมาขอเช่าบ้านพร้อมที่ดินและที่นาไปจำนองกับนายทุนจริง
...
ด้าน พ.ต.อ.อารัก กล่าวว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนและเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนาโดยตรง จึงได้กำชับให้เร่งสอบสวนสืบสวนเพื่อยื่นฟ้องในคดีฉ้อโกงโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน น.ส.ทิพย์สุดา ส่วนการนำที่นา 31 ไร่ ไปจำนองได้เงินมา 950,000 บาท น.ส.ทิพย์สุดา อ้างว่านำเงินมาใช้จ่ายคนเดียวโดยไม่ได้ไถ่ถอนบ้านตามที่กล่าวอ้าง
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ประสานไปยังสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบึงกาฬ เพื่อติดต่อนายทุนที่ฟ้องขับไล่มาเจรจาไกล่เกลี่ยให้ ตา ยายและยายทวด 3 ชีวิต ได้เข้าพักอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิมต่อไปก่อน เนื่องจากไม่มีที่อยู่ พร้อมอนุมัติเงินกองทุนยุติธรรม 30,000 บาท ช่วยเหลือเป็นค่าทนายในการสู้คดี.