เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับ นรข.เชียงคาน บุกล่อซื้อหญิงลาวขายบริการที่ร้านคาราโอเกะ พบอายุต่ำกว่า 18 ปี คาดเจ้าหน้าที่รัฐอาจมีส่วนรู้เห็น หลังการข่าวรั่วไหล เร่งสอบปากคำเจ้าของร้าน ขยายผลดำเนินคดีต่อไป
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 59 พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกับ น.ท.พรวิทย์ ชาญดนตรี รน.หน.สน.เรือ เชียงคาน พ.ต.อดิสัย ไขประพาย ผบ.ร้อย ทพ.2110 ร่วมกันจับกุม นายสำเนียง วงษ์จันทร์ อายุ 53 ปี และนางสุดสาคร วงษ์จันทร์ อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา เปิดคาราโอเกะบังหน้าแต่มีการค้าประเวณีภายในร้านนุกคาราโอเกะ อ.เชียงคาน จ.เลย
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางแผนส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นลูกค้ามาใช้บริการหญิงลาวที่ร้านดังกล่าว โดยทั้ง 2 ได้ส่งน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปีมาให้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอจับกุมพร้อมด้วยธนบัตรที่ถ่ายเอกสารล่อซื้อ จากนั้นได้นำตัวมาขยายผล จนทั้ง 2 ผัวเมียให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของร้าน และลักลอบค้าประเวณีหญิงชาวลาวจริง
ทั้งนี้ ในร้านจะมีหญิงลาวอยู่ 11 คน มีแขกมาใช้บริการพาออกไปข้างนอก เหลือเพียง น้องเอ โดยจะได้ส่วนแบ่งครั้งละ 700 บาท จากการซื้อบริการหญิงชาวลาว นอกจากนี้ ยังได้มีการปลอมแปลงเอกสารในการจดทะเบียนแรงงานของ น้องเอ เป็นอายุ 21 ปีอีกด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบเอกสารการโอนเงินบางส่วนไปยังอดีตทหารเกษียณรายหนึ่ง เป็นเงิน 700,000 บาท จำนวนการโอนเงินหลายครั้ง แต่เจ้าของร้านคาราโอเกะทั้ง 2 ก็ให้การว่าเป็นการโอนเงินไปจ่ายหนี้ที่ไปกู้มา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ และรอตรวจสอบอีกครั้งว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยการสอบสวนเชิงลึกของเจ้าหน้าที่พบว่า การค้าประเวณีครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
...
จาการสอบสวน นางสาวเอ ทราบว่า ได้มาทำงานที่ร้านคาราโอเกะแห่งนี้ ประมาณ 2 ปี โดยมีพี่สาวพามาฝากทำงานที่นี่ ตอนแรกบอกว่ามาเป็นเด็กเสิร์ฟ และแจ้งผ่านกรมแรงงานว่าอายุ 21 ปี เมื่อมาถึงกลับพบว่าเป็นขายบริการ เดือนหนึ่งต้องรับแขกประมาณ 4-5 ครั้ง ชั่วคราวครั้งละ 1,500 บาท ค้างคืน 2,000 บาท ได้รับส่วนแบ่งคนละครึ่ง จนกระทั่งมาถูกล่อซื้อบริการ
พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อบริการจากหญิงลาวที่บ้านหลังหนึ่ง ริมกุดป่อง อ.เมือง จ.เลย ตอนเช้า แต่พอตกดึกจะทำการล่อซื้ออีกครั้ง พบว่าข่าวรั่วและมีการปิดบริการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังมีการส่งผู้หญิงไปขายบริการอีกหลายจังหวัดในภาคกลาง ซึ่งเป็นขบวนการค้ามนุษย์ โดยเชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนเจ้าของร้านคาราโอเกะทั้ง 2 เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นธุระจัดหาเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น โดยเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และความผิดฐานค้ามนุษย์ ส่วนน้องเอ จะกันไว้เป็นพยาน และทำการสอบปากคำขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องเพื่อยึดทรัพย์ต่อไป