ชาวไทยและลาวจำนวนมาก แห่สักการะองค์พระธาตุพนมอายุกว่า 2,000 ปี พร้อมร่วมพิธีสัตตนาคารำลึก บูชาพญานาคปีที่ 59 เชื่อ หากได้มาสักครั้งเหมือนได้เสริมบารมี และมีความสุขความเจริญ

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว ประชาชน และนักท่องเที่ยว ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ “สัตตนาคารำลึก” หรือพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค ที่ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ จัดสืบทอดมานานกว่า 59 ปี ตามความเชื่อและศรัทธา เพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์พญานาคทั้ง 7 ตน เนื่องจากเคยเกิดปาฏิหาริย์เหตุการณ์ประหลาด ที่องค์พญานาคเสด็จมาดูแลในองค์พระธาตุพนมในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 จึงได้มีการถือปฏิบัติสืบทอดกันมา แสดงออกถึงความเคารพศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ที่สำคัญยังเป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทั้งชาวไทยและลาว

...

ในการประกอบพิธี ประชาชนที่มีความเคารพศรัทธาจะมีการนำเอาเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน พานบายศรี รูปพญานาค ไปจนถึงเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ มาถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม รวมถึงหลวงพ่อพญานาค จากนั้นร่วมกันสวดมนต์เจริญภาวนา และการรับฟังพระธรรมเทศนา ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งถึงเวลา 02.00 น. จะถือเป็นเวลาเสด็จของหลวงพ่อพญานาค ตามความเชื่อ จะมีการลงมาประทับร่างทรงเพื่อแสดงพระธรรมเทศนา ทำนายทายทัก จนบางปีเกิดเหตุการณ์ประหลาด อาทิ การเกิดเงาพระธาตุพนมบนท้องฟ้า การเกิดปรากฏการณ์แสงประหลาดบนท้องฟ้า แต่ในปีนี้ไม่เกิดปาฏิหาริย์ใด มีเพียงบรรดาเหล่าร่างทรงพญานาค และผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วสารทิศเดินทางไปร่วมพิธีจำนวนมาก เพราะเชื่อกันว่าเพื่อเป็นการเสริมบารมี จะส่งผลให้มีความสุข ความเจริญ และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง

ด้าน พระเทพวรมุนี กล่าวว่า พิธีศักดิ์สิทธิ์สัตตนาคารำลึก เป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของ จ.นครพนม ในช่วงก่อนวันออกพรรษา หากใครที่ได้มาร่วมพิธีถือว่าเป็นบุญกุศล จะทำให้มีความสุข และเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ส่วนในเรื่องตำนานพญานาคนั้น แล้วแต่จิตของแต่ละคน หรือบุญวาสนาของใครที่จะได้พบเห็น และที่สำคัญ ถือเป็นงานประเพณีสำคัญที่แสดงออกถึงความเคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีองค์พระธาตุพนมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นการสร้างจิตสำนึกให้พุทธศาสนิกชนหันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา.