รองอธิบดีกรมชลฯ ส่งหนังสือชี้แจง กรณีชาวบ้าน 7 ราย ร้องถูกยึดที่นาสร้าง “โครงการแก้มลิงหนองขี้แต้” ที่โคราช ไม่มี จนท.ชลประทานไปขอลายเซ็นชาวบ้าน และผู้ร้องเองไม่ยินยอมรับที่ดินแห่งใหม่ที่ ส.ป.ก.จะหาให้...   

วันที่ 30 ก.ย.59 สำนักงานงานเลขานุการกรมชลประทาน ได้ส่งหนังสือลงนามโดย ว่าที่ร้อยตรี ไพเจน มากสุวรรณ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงข่าวเรื่อง “ชาวบ้านร้องเยียวยาถูกยึดที่ดินไม่มีทำกิน” โดยมีนายบุญถม ลีสม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 10 บ้านหนองปรือพัฒนา ต.โนนตูม อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ร้องเรียนว่า ตนและชาวบ้านรวม 7 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถูกหน่วยงานราชการเข้ายึดที่นาเพื่อทำแหล่งน้ำสาธารณะ หรือชลประทาน “โครงการแก้มลิงหนองขี้แต้” โครงการดังกล่าวเป็นของชลประทานนครราชสีมา ใช้ที่ดิน 137 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่นาของราษฎร 7 ครอบครัว ซึ่งมีเอกสาร ส.ป.ก.4-01 และ ส.ค.1 ถูกต้อง (ชาวบ้านร้องเยียวยาถูกยึดที่ดินไม่มีทำกิน)

กรมชลประทานขอเรียนว่า โครงการชลประทานนครราชสีมา ได้ขอใช้ที่ดินเพื่อดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการชุดดังกล่าว ให้ความเห็นชอบแล้ว ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 โครงการชลประทานนครราชสีมา จึงได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตที่ดิน การชี้แจง และเจรจากับผู้ถือครองที่ดิน จนกระทั่งราษฎรลงนามสละที่ดินคืนให้ ส.ป.ก.นครราชสีมา เป็นกระบวนการที่ดำเนินการโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ ส.ป.ก.นครราชสีมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ดังนั้นจึงไม่มีเจ้าหน้าที่ของโครงการชลประทานนครราชสีมา ไปขอลายเซ็นชาวบ้านเจ้าของที่ดิน โดยแจ้งว่าให้เซ็นยินยอมให้เหยียบพื้นที่ เพื่อเข้าไปทำโครงการป่าสาธารณะ และแก้ไขข้อมูลใหม่ โดยเอารายชื่อที่เขียนไว้ไปอ้างยินยอมยกที่ดินทั้งหมดให้สร้างเป็นแก้มลิงตามที่ระบุแต่อย่างใด

...

นอกจากนี้ จังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ต่อมาทางอำเภอชุมพวง ได้จัดประชุมผู้เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2559 ผู้แทนส.ป.ก.นครราชสีมา ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาโดยจะตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 สำหรับแปลงที่ดินที่ชดเชยให้ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 7 ราย บางส่วนจะอยู่ในบริเวณรอบพื้นที่ก่อสร้าง ส่วนที่เหลือจะได้พิจารณาจัดหาที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นแปลงที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า จะสามารถนำเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินได้หรือไม่ ทั้งนี้ นายบุญถม ลีสม ตัวแทนผู้ร้องทั้ง 7 ราย ไม่ประสงค์ที่จะรับที่ดินที่ทาง ส.ป.ก.นครราชสีมานำเสนอ แต่จะขอดำเนินการตามแนวทางของตนเอง และไม่ประสงค์จะทำบันทึกความพึงพอใจที่ได้รับการจัดสรรที่จาก ส.ป.ก.นครราชสีมา อีกทั้งยังไม่ขอลงนามในเอกสารการสอบสิทธิ์ด้วย.