ป.ป.ช.โคราชแจง เร่งตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณโครงการขุดลอกคลองของ อบจ. หลัง สตง.ตีความอาจเข้าข่ายฮั้ว เผยสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 20 คน ส่วน 11 โครงการเบิกเงินไปแล้วต้องสอบในใบฎีกาเบิกเงิน ก็จะรู้มีใครบ้าง พร้อมเร่งสอบอีก 33 โครงการ
สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครราชสีมาตรวจพบว่า การใช้จ่ายงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาทำโครงการขุดลอกคลอง และถนนจำนวนรวม 683 โครงการ วงเงินรวม 346,076,680 บาท ถูกตรวจสอบพบว่า มีการตั้งราคางานโครงการไว้ 5 แสนบาท เท่ากันทุกโครงการส่อเข้าข่ายฮั้ว โดยมีการเบิกจ่ายเงินในโครงการดังกล่าวไปแล้วจำนวน 11 โครงการ โครงการละ 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 5.5 ล้านบาท ตามที่มีข่าวแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.59 นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช.ส่วนกลางไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาที่ดูแลพื้นที่นครราชสีมาสั่งการลงมาให้ตนลงไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิด โดยในขั้นตอนของ ป.ป.ช. จ.นครราชสีมา ตอนนี้ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว เท่าที่ไปดูพื้นที่ประมาณ 20 โครงการ มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคนที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 คนไปแล้ว
ขณะนี้เราเตรียมส่งเรื่องเพื่อเสนอคณะอนุกรรมการอยู่ ส่วนจะมีมากกว่า 11 โครงการที่ทาง สตง.ตรวจพบนั้น จริงๆ แล้วโครงการนี้มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้ว 33 โครงการ ซึ่งตอนนี้เราคงดูโครงการที่มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วว่ามีโครงการอะไรบ้าง ก็คงดูพยานเอกสารหลักฐาน ดูตัวโครงการว่า มีเจ้าหน้าคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องในโครงการนี้บ้าง แต่กรณีนี้เราต้องระวังอยู่บ้าง เพราะมันเป็นการร้องเรียนเราก็ดูให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายว่า เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับใคร ผิดตรงไหนหรือเปล่า หรือควรจะทำอะไรหรือเปล่าในตรงนี้ ซึ่งเรากำลังทำอยู่ตอนนี้
...
นายมงคล กล่าวต่อว่า ส่วนการจะเรียกหรือเชิญนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ มาให้ข้อมูลหรือไม่นั้น นายมงคลกล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่ต้อง เพราะนายก อบจ.เป็นแค่ผู้อนุมัติ และนายก อบจ.อยู่ข้างบน แต่กระบวนการเราต้องเริ่มจากข้างล่างขึ้นไป โดยดูความเป็นมาของโครงการนี้ก่อนว่า เป็นอย่างไร มันผิดตรงขั้นตอนไหน เราคงไล่ตามสเต็ปลำดับขั้นไป โดยเอาหน้าที่รับผิดชอบแต่ละลำดับมาให้ปากคำ ซึ่งวันนี้เราก็ไล่สอบเจ้าหน้าที่กันอยู่ และสอบกันทุกวัน
ส่วนผลการสอบจะเสร็จในเดือนกันยายนนี้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าจริงๆ แล้วก็อยากให้ภาพปรากฏชัดเจนภายในเดือนกันยายน หมายความว่า ชัดเจนให้ระดับหนึ่ง ส่วนจะชี้มูลเลยนั้น คงยังไม่ได้ เพราะระบบของ ป.ป.ช.เป็นระบบไต่สวน ซึ่งถ้าผิดต้องมีการแจ้งคำสั่ง แจ้งข้อกล่าวหา และต้องใช้เวลาเป็นเดือน ตนยอมรับว่าอาจจะหลายเดือนด้วย แต่กระบวนการเอาว่า ความชัดเจนของตนคือ เรื่องนี้มีมูลหรือไม่มีมูล ว่าควรจะรับเรื่องหรือไม่รับเรื่อง ทุกขั้นตอนเราจะเอาตัวเรื่องทั้งหมดมาดูกัน ส่วนกรณีทั้ง 33 โครงการทำไม่จริงมีกี่โครง รวมเครสทั้ง 11 โครงการ เบิกเงินไปแล้ว 5.5 ล้านบาท ที่ไปดูมาแล้วนั้น ตนคิดว่า เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ไม่หมด อย่าง 11 โครงการแรกที่เราไปดูก็ไม่พบร่องรอยอะไรเลย และเราก็เข้าไปดูในส่วนอีก 33 โครงการที่เหลือว่าทำจริงหรือไม่จริงอีกทีที่เราคงต้องไล่ตามสเต็ป เพราะพื้นที่ไกลมากทั้ง 32 อำเภอ เราต้องจัดเจ้าหน้าที่ไปดูวันหนึ่งได้ประมาณ 6 - 7 โครงการที่เข้าไปดูตรงนี้
สำหรับท้องถิ่นจังหวัดฯ ก็ได้มีการตรวจสอบในฐานะดูแลรับผิดชอบ อบจ. และการสั่งการของนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา จะมีการขอข้อมูลนั้น เรื่องนี้ตนเรียนว่าเป็นการบูรณาการทำงานโดยจังหวัด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.ท้องถิ่นจังหวัด, สตง. และ ป.ป.ช.จังหวัด เราพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้การทำงานทับซ้อน อย่างเช่น การขอเอกสารเพื่อที่จะสอบปากคำเจ้าหน้าที่มันจะทับซ้อนก็คงมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้อีกที ส่วนผู้บริหารมีมีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนขออนุญาตไม่ตอบ เพราะต้องดูกระบวนการขั้นตอนไป เพราะโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่และขนาดใหญ่มากเลย ฉะนั้นมันต้องดูกระบวนการการได้มาโครงการและอะไรต่างๆ มากมายไปหมด จึงต้องไล่ระดับสเต็ป และต้องใช้เวลาอยู่บ้าง
นายมงคล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการเบิกเงินมาแล้ว แต่ไม่ดำเนินการ คนที่มีรายชื่อในใบฎีกาเบิกต้องผิดทั้งหมดนั้น ตนคิดว่าไล่ไปทีละคนได้เลย ใครเกี่ยวข้องบ้าง เพราะถ้าตามหลักการสอบสวนก็ต้องดูทั้งหมดว่า ในฎีกาใบเอกสารชุดนั้นมีใครเกี่ยวข้องในกระบวนการขั้นตอนไหน ธุรการอาจจะไม่ผิดเป็นคนรวบรวมหนังสือ แต่ใครที่มีเกี่ยวข้องที่ทำให้โครงการนี้ผ่านไปต้องไปดูตรงนี้อีกที
สำหรับ 11 โครงการที่เบิกเงินไปแล้ว ทางผู้รับเหมาจะมีส่วนผิดด้วยหรือไม่นั้น ตนเรียนว่า ใครอยู่ในหน้าฎีกาหมด อาจจะผู้รับเหมาด้วย เพราะต้องเอาหลักฐานเบิก เราก็ต้องดูหมด และเรื่องนี้ตนอยากจะทำให้ชัดเจนที่สุดให้เสร็จกันยายน-ตุลาคม ซึ่งจะพยายามให้เร็วที่สุด ยอมรับว่าคงกำหนดระยะเวลาไม่ได้ โครงการใหญ่ๆ พ่อแม่พี่น้องประชาชนมีส่วนมากในการให้ข้อมูลกับเราและก็จะลงไปดูให้ชัดเจน.