ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ จ.บึงกาฬ ล้อมจับนกเงือกขนาดใหญ่ ที่บินวนในหมู่บ้านโนนสวาทกว่า 3 วัน คาดเจ้าของเอามาปล่อยทิ้งไว้หนีความผิด ขณะที่พนักงานพิทักษ์ป่าเผยหากลัวความผิดให้เอามาส่ง หรือเรียกให้เจ้าหน้าที่ไปรับจะดีกว่า
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 59 ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ รับแจ้งจาก นายเนตร เนตรวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านโนนสวาท ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ ว่าได้มีนกเงือกขนาดใหญ่บินร่อนไปร่อนมาอยู่ในหมู่บ้าน 3 วันแล้ว ท่าทางหิวโซ เอากล้วยโยนให้กินก็ไม่ยอมกินเกรงจะอดตายและกลัวจะถูกชาวบ้านทำร้าย ต่อมานายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬพร้อมด้วยหน่วยเขตห้ามล่าสัตว์หนองกุดทิงและนายบัญชา เตียงงา เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 ประจำ สนง.สปป.2 (ตอ./น) เข้าไปยังหมู่บ้านโนนสวาทเพื่อวางแผนจับนกเงือกดังกล่าว
...
ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คนร่วมกับชาวบ้านประมาณ 20 คนพยายามไล่จับนกเงือกด้วยมือเปล่าและใช้แหเป็นอุปกรณ์ แต่เหวี่ยงแหอย่างไรก็ไม่ทันนกที่บินหนีได้ ซึ่งนกเงือกก็ยังคงบินไปมาสลับต้นไม้และหลังคาบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ใช้หมากแดงโยนล่อให้นกกิน ซึ่งนกเงือกก็ใช้ปากงับหมากแดงได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถจับนกเงือกได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้ตาข่ายซิ่ง ซึ่งเป็นตาข่ายที่ชาวบ้านใช้จับนกกระจิบ มาล้อมบ้านเลขที่ 79 หมู่ 3 ของนางคำปุ่น ที่นกเงือกเข้าไปจับอยู่ภายในบ้านที่ซ่อมแซมใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านหลังไล่นกเงือกให้บินมาชนตาข่ายจึงสามารถจับได้
นายบัญชา เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่า กล่าวว่า นกเงือกตัวนี้มีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม เนื่องจากไม่ได้กินอาหารมาหลายวันจึงผอมโซ ความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร คาดว่ามีคนนำมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ แต่พอเห็นข่าวการเอาผิดผู้เลี้ยงเกรงจะมีความผิดด้วยจึงนำมาปล่อยทิ้งในป่าสวนยางพารา ซึ่งมีชาวบ้านแจ้งว่ายังมีนกอีกตัวที่เป็นคู่กันบินอยู่ในหมู่บ้านเขตอำเภอเมืองบึงกาฬ จะได้ตามจับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเช่นกัน จึงขอเตือนผู้ที่ครอบครองหากกลัวความผิดก็แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ไปรับหรือนำมาส่ง อย่าปล่อยนกให้ไปหากินเอง เพราะคุ้นเคยอยู่กับการให้อาหารของคน การหากินเองจึงเป็นสิ่งที่ลำบากสำหรับสัตว์ที่มีคนเคยเลี้ยง
...