เมื่อวันที่ 31 พ.ค.นายวิทยา แก้วมี ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ดำเนินการพัฒนาลุ่มน้ำเลยตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คำแนะนำในการจัดหาน้ำให้ราษฎรทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเลยสามารถทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง ตลอดจนมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภค บริโภคได้ตลอดทั้งปี ซึ่งจะต้องมีการสร้างอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำเลยตอนบนเพื่อเป็นน้ำต้นทุนจำนวน 3 แห่ง และสร้างฝายทดน้ำในลำน้ำเลยตอนล่าง เพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกอีก 6 แห่ง

สำหรับการดำเนินงานก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งนั้น อ่างเก็บน้ำน้ำเลย ซึ่งเป็นอ่างฯ ขนาดกลาง มีความจุ 35.8 ล้าน (ลบ.ม.) สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 2 แห่ง คืออ่างฯห้วยน้ำทบ (บ้านโพนงาม) ความจุ 7.4 ล้าน ลบ.ม. และอ่างฯห้วยน้ำลาย (บ้านภูบ่อบิด) 25 ล้าน ลบ.ม. อยู่ในแผนงานก่อสร้างของกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง เช่นเดียวกับการสร้างฝายทดน้ำจำนวน 6 แห่ง ขณะนี้สร้างเสร็จไปแล้ว 5 แห่ง คือ ฝายยางบ้านทรายขาว ฝายยางบ้านบุ่งกกตาล ฝายยางบ้านท่าทิศเฮือง ฝายยางบ้านติดต่อ และฝายบ้านปากหมาก ส่วนที่เหลืออีก 1 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำศรีสองรัก อยู่ในแผนงานก่อสร้างของสำนักงานพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่

ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม เผยว่า สำหรับการส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรนั้น จะใช้ระบบสูบน้ำกระจายเข้าพื้นที่การเกษตรได้ 34,680 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 11 ตำบล 23 หมู่บ้านในเขต อ.วังสะพุง อ.เมือง และ อ.เชียงคาน จ.เลย ในปี 2561-2563 มีแผนที่จะสร้างระบบส่งน้ำ เพื่อส่งน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรอีก 24,912 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 ตำบล 27 หมู่บ้าน ในเขต อ.ภูหลวง และ อ.วังสะพุง จ.เลย รวมพื้นที่ได้รับน้ำจากโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเลย ตามแนวพระราชดำริ ทั้งสิ้น 16 ตำบล 4 อำเภอ 11,510 ครัวเรือน ประชากร 57,530 คน รวมพื้นที่การเกษตร 59,592 ไร่.

...