ชาวบ้านพบเรือกำปั่นเครื่องจักรไอน้ำ บรรทุกสินค้าเป็น‘ไวน์’จากนครพนม จมอยู่ใต้ลำน้ำโขงที่จังหวัดบึงกาฬ แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ คาดเป็นเรือสินค้าเก่าแก่ จมอยู่นานประมาณ 60 ปี เตรียมกู้ขึ้นมาก่อนฤดูน้ำหลาก...
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 59 นาวาเอกสุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข.เขต หนองคาย พร้อมด้วยโยธาธิการและผังเมืองบึงกาฬ ผู้แทนจาก อบจ.บึงกาฬ และ อบต.บึงกาฬ ได้เดินทางพร้อมด้วยนักประดาน้ำ เพื่อไปสำรวจเบื้องต้นกรณีที่ชาวบ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ แจ้งว่าพบจุดที่เรือกำปั่นเครื่องจักรไอน้ำ บรรทุกสินค้าจากนครพนม เดินทางไปขายสินค้าที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เกิดเรือรั่ว และจมลงแม่น้ำโขงบริเวณบ้านท่าไคร้ เมื่อประมาณ 60 ปีที่ผ่านมา
นาวาเอกสุชาติ เปิดเผยว่า เนื่องจากแม่น้ำโขงลดลงมาก ทำให้ชาวบ้านที่ออกหาปลาลากตาข่ายไปติดถูกเรือที่จมอยู่ ดังนั้น วันนี้เป็นการสำรวจเบื้องต้นถึงตำแหน่งเรือที่จมและขนาดของเรือ เพื่อจะได้วางแผนในการกู้เรือขึ้นมาในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด หลังจากที่ใช้ทีมนักประดาน้ำ 2 นาย ลงไปตรวจสภาพเรือที่จมอยู่ไต้น้ำประมาณ 30 นาที
...
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบตัวเรือแล้ว ซึ่งอยู่ลึกจากผิวน้ำประมาณ 4 เมตร มีทรายทับถมตัวเรือจมอยู่ไต้น้ำเป็นจำนวนมาก จากนี้ไปทางจ.บึงกาฬ ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันกู้ซากเรือลำนี้ขึ้นมา และควรทำภายใน 2 เดือนนี้ ก่อนถึงฤดูน้ำหลาก และยืนยันว่าจุดที่พบห่างจากฝั่งไทย 3 เมตร ยังไม่ถึงร่องน้ำลึก เรือจึงจมอยู่ที่ฝั่งไทย
ขณะที่ นายวีระชัย แก้วเทพ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านท่าไคร้ เล่าว่าเมื่อปี 2490 ประมาณเดือน 10 มีเรือกำปั่นล่มในน้ำโขง ใกล้วัดท่าไคร้ ซึ่งเรือกำปั่นเป็นเรือของ ขุนอินทร์ ณีระสมิท ชาวนครพนม บรรทุกสินค้าจำพวกไวน์ ลงเรือขับทวนน้ำขึ้นเหนือเพื่อไปขายที่นครเวียงจันทน์ ถึงที่เกิดเหตุเรือเกิดรั่วทำให้เรือจมลงน้ำโขงไปพร้อมกับฝรั่ง 2 สามีภรรยา จมน้ำเสียชีวิตไปด้วย ซึ่งได้มีการบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตในเรือลำนี้
"รู้สึกดีใจมากที่จะมีการกู้ซากเรือลำนี้ขึ้นมาแล้วเก็บไว้ เพื่อส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนบ้านท่าไคร้ต่อไป" นายวีระชัย กล่าวทิ้งท้าย.