ผู้เลี้ยงปลานิลในน้ำมูล โอดภัยแล้ง ทำปลาตายยกกระชังอื้อ รวมน้ำหนักกว่า 30 ตัน เสียแล้วร่วม 2 ล้าน ประมงอุบลฯ ตรวจน้ำพบค่าออกซิเจนต่ำกว่าปกติ 2 เท่า แนะรีบจับขาย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งที่ จ.อุบลราชธานี ว่า ขณะนี้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังริม 2 ฝั่งแม่น้ำมูล เขตบ้านแพง ต.สว่าง อ.สว่างวีระวงศ์ และ บ้านดงบัง ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง โดยมีปลานิลเลี้ยงในกระชังอายุประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งโตเต็มที่พร้อมขาย ตายยกกระชังและทยอยตายรวม 4 ราย แล้ว น้ำหนักปลารวมกว่า 30,000 กิโลกรัม
สอบถาม นายคำพอง แสนบุญศิริ อายุ 40 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านดงบัง ต.ดอนมดแดง กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลลดลงต่ำกว่าปีที่ผ่านมากว่า 1 เมตร ประกอบกับขณะนี้สภาพอากาศที่ท้องฟ้าปิด มีแสงแดดน้อย และมีฝนตกเป็นบางวันมาตลอดสัปดาห์ ทำให้ปลาเริ่มขาดออกซิเจนขึ้นมาลอยหัวเหนือน้ำ
...
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี นำเครื่องมือมาตรวจวัดค่าออกซิเจนในน้ำพบว่า ค่าออกซิเจนมีเพียง 1 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อลิตร (PPM) จากที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 3 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อลิตร จึงเตือนให้เกษตรกรรีบจับปลาออกขาย จึงรีบทยอยจับปลานิลที่ได้ขนาดส่งขาย กระทั่งเช้ามืดวันนี้พบปลานิลที่เลี้ยงไว้ตายเกลี้ยงแล้ว 2 กระชัง น้ำหนักปลากว่า 600 กิโลกรัม จากทั้งหมด 20 กระชัง ทำให้ครอบครัวต้องรีบช่วยกันตักปลาที่ตายขึ้นมาแปรรูปทำปลาร้าขายแทน
ส่วนเพื่อนเกษตรกรที่เลี้ยงปลานิลในกระชังริมแม่น้ำมูล ซึ่งอยู่ใกล้กันอีก 3 ราย และเป็นจุดที่น้ำตื้น ปลานิลก็ตายรายละ 10-12 กระชัง ทำให้เกิดความเสียหายไปแล้วกว่า 30,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท และคาดว่าจะมีปลาเลี้ยงในกระชังของผู้เลี้ยงทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำมูลกว่า 30 ราย ได้รับผลกระทบตามมาเช่นกัน.