อดีต ส.ส.โคราช 2 สมัย ขออยู่อย่างเสือ แม้ตกยาก อาศัยเพิงสังกะสีหลังคารั่ว เป็นที่พัก แถมใช้แค่เบี้ยคนชรา 500 บาทต่อเดือนประทังชีวิต อัด นักการเมืองโดดประชุม เป็นพวกไม่มีจิตสำนึกรับใช้ประชาชน ...
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 23 ถ.หนองม่วง 2 เขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา หลังทราบว่าอดีต ส.ส.2 สมัย มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างน่ารันทด สภาพบ้านหลังดังกล่าวเป็นเพิงสังกะสีหลังคารั่วเป็นรูพรุน ฝาบ้านเป็นสังกะสีเก่าผุ ๆ มีแผ่นพลาสติก ป้ายโฆษณาปิดไว้พอกันแดดกันลมเท่านั้น
ภายในบ้านก็มีที่นอนเก่า ๆ กับมุ้ง 1 หลังกางอยู่ เครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่มีอะไรเลย มีเพียงจักรยานเก่า 1 คัน พบกับ นายประจัญ กล้าผจญ อายุ 68 ปี อดีต ส.ส.นครราชสีมา สังกัดพรรคชาติไทย 2 สมัย
นายประจัญ เผยว่าอดีตตนเป็นครูประชาบาล 15 ปี สอนมาแล้วหลายโรงเรียนทั้งในเขต อ.ชุมพวง อ.บัวใหญ่ สุดท้ายเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนบ้านหญ้าคา ต.สีดา อ.สีดา จ.นครราชสีมา หลังจากนั้นได้ลาออกมาสมัครเป็นทหารอาสาไปรบที่ประเทศเวียดนาม 1 ปี เมื่อกลับมาเมืองไทย พ.ศ.2522 ตนได้สมัคร ส.ส. สังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งขณะนั้นมี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 22 เม.ย 2522 อยู่จนครบวาระ 4 ปีสมัยที่ 2 ได้รับเลือกตั้ง 18 เม.ย.2526 จนถึง พ.ศ. 2529 ก็มีการปฏิวัติ
หลังจากนั้นตนก็ได้สมัคร ส.ส. อีกหลายครั้ง แต่สอบตกเพราะไม่มีเงินซื้อเสียง นายประจัญเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ก็มีนำตาคลอเบ้าพูดด้วยเสียงสั่นเคลือ การเมืองทุกวันนี้แย่มาก ๆ ลงเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากทั้งนั้น คนที่ตั้งใจจะทำงานเพื่อบ้านเมืองกลับไม่มีโอกาส นายประจัญ เผยกับผู้สื่อข่าวต่อไปว่าทุกวันนี้ตนเองไม่มีรายได้อะไรเลยก็ได้เบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาทมาซื้อข้าวสารพอประทังชีวิตเท่านั้น ส่วนกับข้าวก็เก็บผักบุ้งตามหนองนำใกล้บ้านมาผัด วันไหนมีเงินถึงจะได้ซื้อไข่มาทอดกินสักครั้ง บางทีก็ซื้อปลาทูเค็มมาขยำข้าวกินก็จะได้หลายวัน แต่วันนี้ข้าวสารก็หมดเหลือข้าวอยู่กำมือเดียวก็คงจะต้มข้าวต้มกินไปก่อน
ด้านนายคำพันธ์ บุญยืด อดีตหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมาซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่นายประจัญสอนมา กล่าวว่านายประจัญเป็นคนสมถะ สมัยก่อนตอนสมัคร ส.ส. ก็ปั่นจักรยานหาเสียงไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ จนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. 2 สมัย โดยไม่ได้ซื้อเสียงเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ก่อนบ้านของนายประจัญเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ขณะเป็น ส.ส. ได้มีพระกับชาวบ้าน บ้านแฝก อ.สีดามาขอเงินไปซื้อไม้เพื่อสร้างสะพานข้ามคลอง นายประจัญไม่มีเงินให้เนื่องจากเป็น ส.ส.คนจน จึงให้มารื้อบ้านตนเองเอาไปสร้างสะพาน พระกับชาวบ้านก็มารื้อเอาไปจริง ๆ นายประจัญจึงได้ปลูกกระต๊อบอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
มีอยู่ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือแต่นายประจัญไม่มีเงินให้ก็ถอดสร้อยคอทองคำให้ไป ทุกวันนี้นายประจัญอยู่อย่างอนาถา แต่ก็ไม่เคยที่จะไปเอ่ยปากรบกวนใคร ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับ ส.ส. สันหลังยาวโดดร่มไม่ไปประชุมทำให้สภาล่มบ่อย ๆ นายประจัญกล่าวว่านักการเมืองสมัยนี้ไม่มีจิตสำนึก ไม่สมกับที่อาสาประชาชนเข้าไปเป็นผู้แทน ไม่มีความรับผิดชอบมีแต่ความแตกแยกยึดผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของชาติน่าเบื่อหน่าย
...