ผอ.ดีเอสไอ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี ระบุมีครูผู้ช่วยให้การเป็นประโยชน์รวม 10 ราย ฟันธงมั่นใจสามารถดำเนินคดีกับขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วยนี้ได้แน่นอน ย้ำจะลงพื้นที่โคราชสอบทางลับขบวนการนี้ ขอปิดเป็นความลับ...
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 56 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานคดีอาญาพิเศษ 2 ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีทุจริตสอบครูผู้ช่วย พร้อมชุดคลี่คลายคดี ได้เรียกบรรดาครูผู้ช่วยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับคดีการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายธานินทร์ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ มีครูผู้ช่วยเข้ามาให้ข้อมูลกับดีเอสไอตามหมายเรียกทั้งหมดรวม 51 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มีครูผู้ช่วย 10 คน ที่ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้มีการจ่ายเงิน ในจำนวนระหว่าง 400,000-600,000 บาท เพื่อแลกกับเฉลยข้อสอบจริง โดยมีบางรายให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า เคยเดินทางไปที่บ้านพักของ นายอำพร ทวรรณกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนเสมาอุปถัมภ์ อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 เพื่อจ่ายเงินและรับเฉลยข้อสอบจริง ซึ่งคำให้การส่วนนี้ถือเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อดีเอสไอ ซึ่งตนจะกันทั้ง 10 คน ที่ให้ข้อมูลนี้ไว้เป็นพยาน ส่วนอีก 39 คนที่ปฏิเสธก็คงจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
...
นายธานินทร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ ตนและชุดคลี่คลายคดีจะร่วมกันลงพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าไปสอบปากคำพยานบางรายเพิ่มเติม เนื่องจากมีการให้ข้อมูลในทางลับว่า ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่ได้ให้การในวันที่มาสอบปากคำ ซึ่งในส่วนนี้ตนขอปิดเป็นความลับ เนื่องจากพยานเกรงว่าจะเกิดอันตราย และอาจจะมีการเข้าไปข่มขู่พยาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพยานหากถูกข่มขู่ หรือเกรงว่าจะได้รับอันตราย ก็สามารถร้องขอรับการคุ้มครองได้ที่ดีเอสไอ ซึ่งตนจะได้ประสานมายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปคุ้มครอง โดยตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ จะสามารถเอาผิดขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ ซึ่งนอกจากมีเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดใน จ.นครราชสีมา แล้ว ยังมีเครือข่ายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ อีกหลายคน และในจำนวนนี้มีตำแหน่งเป็นถึงระดับผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย ซึ่งหลังจากนี้คงจะมีการออกหมายเรียกไปยังผู้ที่ถูกซัดทอด เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ก่อนจะสรุปข้อมูลทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป.