บุรีรัมย์ สาวคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ข้ามเลนพุ่งชนสองพี่น้อง 9 ปีกับ 13 ปีเสียชีวิตทั้งคู่ ออกมาโต้ ลูกไม่ได้เล่นพวงมาลัยตามข่าว ยันลูก 2 ขวบนั่งคาร์ซีท พร้อมเยียวยาผู้สูญเสียเต็มที่ คาดจะได้ทั้งเงินประกัน พ.ร.บ. และเงินประกันภาคสมัครใจไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ขณะยายเด็กยอมรับหนักใจเรื่องคดี โอด เพราะเราเป็นคนจน เผยพ่อกับแม่ที่ทิ้งลูกไปตั้งแต่ 4 เดือน กลับมาถึงบ้านแล้ว
จากกรณี น.ส.พิรุณ อายุ 43 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ขับรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีแดง หมายเลขทะเบียน จังหวัดบุรีรัมย์ มาพร้อมกับลูกชายวัย 12 ปีและ 2 ปี แล้วขับข้ามเลนพุ่งชน ด.ญ.นถุมล หรือน้องมันนี่ อายุ 13 ปี และ ด.ช.ปุญญาพัฒน์ หรือน้องนะโม อายุ 9 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 22 มี.ค. บนถนน 2 เลนสายสตึก-โนนจำปา บริเวณบ้านยางงาม หมู่ที่ 10 ต.ทุ่งวัง
ซึ่งจากการสอบถามนางทองจันทร์ อายุ 62 ปี ยายของเด็กที่เสียชีวิตทั้งสองราย เล่าถึงเหตุการณ์ว่าเกิดขึ้นต่อหน้าเพราะหลานทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปไม่ถึง 50 เมตร เห็นหลานลอยขึ้นไป แล้ววิ่งไปกับสามีไปดูหลานทันที
โดยนางทองจันทร์ ยังเล่าถึงวินาทีที่เดินไปถามคนขับรถยนต์ และได้รับคำตอบว่า ขอโทษที่เกิดเหตุ เพราะลูกชาย 2 ขวบมาเล่นพวงมาลัย รถจึงข้ามเลนไปชนน้องทั้งสองคน ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (แม่อ้างลูก 2 ขวบเล่นพวงมาลัยรถ พุ่งข้ามเลนชน 2 พี่น้องดับคู่ต่อหน้ายาย)

...
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 น.ส.พิรุณ คนขับรถยนต์ได้ออกมาโต้ว่า เหตุการณ์ไม่ได้เหมือนตามที่ข่าวนำเสนอไป จริงแล้วลูกชายวัย 2 ขวบนั่งอยู่คาร์ซีท เบาะนั่งข้างคนขับรถ
ช่วงเกิดเหตุตนขับรถด้วยความเร็วเพียง 70-80 กม./ชม. เท่านั้น บริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งนิดๆ ตอนนั้นลูกชายคนเล็กเอามือปิดตาบอกว่ากลัว จากนั้นลูกชายอาเจียนออกมา จึงหันไปบอกลูกชายคนโตอายุ 12 ปีที่นั่งอยู่ด้านหลังว่า ให้หากระดาษมาเช็ดให้น้อง แล้วรถก็พุ่งชนรถเด็กดังกล่าว คาดว่าเด็กน่าจะออกมาจากถนนซอย

“ตอนแรกคิดว่าฝัน พอถุงลมนิรภัยมากระแทกใส่หน้าจึงรู้สึกตัวว่านี่เป็นเรื่องจริง ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพวงมาลัย เหมือนตามที่เป็นข่าว ส่วนกรณีข่าวระบุว่ามีคนมาถามหลังเกิดเหตุ ตนยอมรับว่ามีจริง ตนก็เล่าตามที่เล่าตอนนี้”
สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือ ตนพร้อมช่วยเหลือเต็มที่เพราะเห็นใจ เท่าที่ทราบยายเลี้ยงหลานมาตั้งแต่ 4 เดือนตามลำพัง เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ไม่มีใครส่งเงินมาเลี้ยงดูหลาน

จากการตรวจสอบสภาพรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันเกิดเหตุ พบว่าด้านหน้ารถและหลังรถมีกล้องอยู่ แต่ไม่พบเมมกล้องหรือเมมโมรี่การ์ด เมื่อสอบถาม น.ส.พิรุณ บอกว่าตนได้ถอดออก เมื่อผู้สื่อข่าวขอดูการ์ด น.ส.พิรุณ ก็ให้ดูพบว่าการ์ดยังมีพื้นที่เหลืออยู่ แต่ไม่มีภาพช่วงเกิดเหตุ

ขณะบรรยากาศงานศพน้องมันนี่กับน้องนะโม ยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางทองจันทร์ ยืนยันอีกว่ารถยนต์ข้ามเลนมาชนหลานทั้งสองคนต่อหน้าต่อตา จำติดตาว่ารถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วเหมือนลมพัดมา
“เช้าวันนี้ได้มีพ่อของคนขับรถยนต์เอาน้ำดื่มมาช่วยงานศพ แจ้งว่าจะไปดูหลาน 2 ขวบที่ได้รับบาดเจ็บเลือดกำเดาไหลไม่หยุด เบื้องต้นทราบว่าญาติคนขับรถว่าภายในรถมีกล้องวงจรปิดทุกมุม ให้ระวังตำรวจเอาภาพในกล้องไปทำมิดีมิร้ายนะญาติเขามาพูดให้ฟัง ยอมรับว่าหนักใจเรื่องคดี เพราะเราเป็นคนจน แต่ได้รับการยืนยันจากตำรวจว่าไม่ต้องเป็นห่วง”
ข้อมูลเบื้องต้นรถยนต์มี พ.ร.บ. ภาคบังคับ และมีประกันแบบสมัครใจ ซึ่งน่าจะได้รับการเยียวยาเบื้องต้นจากในระบบไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่เด็กได้มารอที่บ้านแล้ว
...