หลวงตาวัย 70 ปี แจงปมชาวบ้านร้องเรียนเรียน ปิดห้องเข้าไปอยู่กับสีกาสองต่อสอง อ้างแค่เข้าไปช่วยกับน้ำดื่ม ส่วนที่เหงื่อออกเพราะห้องร้อนไม่มีพัดลม
วันที่ 5 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองขอน ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีหลวงตาอายุ 70 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับสีกามานาน แต่ไม่มีใครจับสึกได้ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านหนองขอน ต.กันทรารมย์
พบนายปรีชา อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่ร้องเรียน เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนเข้าไปวัดเห็นหลวงตาซึ่งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัด มีพฤติกรรมผิดปกติ เดินเข้าไปในห้องเก็บของข้างกุฎิของหลวงตา แต่มีผู้หญิงอายุ 40 เป็นคนงานก่อสร้างเมรุเดินตามเข้าไปด้วย
ผิดสังเกตและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเคยเห็นหลวงตาเดินเข้าไปพร้อมกับสีกาหลายครั้งแล้ว จึงเดินไปที่หน้าห้องเก็บของจากนั้นค่อยๆ ดึงประตูแต่ถูกล็อคเอาไว้ ด้วยความอยากรู้จึงยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับตั้งกล้องโทรศัพท์เอาไว้ นานประมาณ 30 นาที หลวงตาจึงเปิดประตูออกมาในลักษณะเหงื่อแตกพลั่ก ส่วนสีกาพยายามหลบอยู่กับกองน้ำดื่ม
...
นายปรีชา เล่าด้วยว่า หลังจากนั้นหลวงตาได้หนีไปจำวัดอยู่อีกวัดหนึ่งในอำเภอห้วยราช ห่างจากวัดเดิมประมาณ 20 กม. แต่เรื่องก็เงียบไป ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ถูกต้องจึงเอาเรื่องมาร้องสื่อดังกล่าว ส่วนคลิปที่ถ่ายไว้ได้ลบไป หลังมีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสองค์ใหม่แล้ว
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง พบพระบุญทรง อายุ 70 ปี ซึ่งที่หลวงตาที่ถูกนายปรีชากล่าวหา โดยพระบุญทรงเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า สาเหตุที่เข้าไปในห้องเก็บของ เพราะให้นางเอ (นามสมมุติ) สีกาคนงานก่อสร้างเมรุภายในวัด มาช่วยนับน้ำดื่มที่กองอยู่ในห้องเก็บของ ว่าจะเอาอย่างไรดี เพราะน้ำหมดอายุแล้ว สาเหตุที่เหงื่อออกเพราะมันร้อนห้องไม่มีพัดลม ไม่เคยคิดทำอย่างอื่น โดยเฉพาะอาตมาวัย 70 ปีแล้วจะทำอะไรได้ ยืนยันไม่ได้ทำอะไรสีกาแน่นอน สาเหตุที่หนีออกมาเพราะต้องการตัดปัญหาเสียงชาวบ้าน.