โรงเรียนไม่ทน โพสต์ประกาศปกป้อง "นักการ-รปภ." หลังเจอผู้ปกครองหัวร้อน ด่าทอ-ผลักทำร้าย เหตุไม่พอใจเรื่องจอดรถรับลูก

จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก จ.ขอนแก่น โพสต์ภาพที่ระบุข้อความว่า "เรียน ท่านผู้ปกครองที่เคารพ วันนี้ฝนตกหนักช่วงโรงเรียนเลิกกลับบ้าน ผู้ปกครอง นักเรียน ครู นักการตลอดจน รปภ. ต่างก็พยายามส่งนักเรียนกลับบ้านให้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุด

แต่วันนี้มีผู้ปกครองมาด่าว่าให้เสียหาย ทั้งด่า รปภ. และนักการ และจะทำร้ายนักการ ในขณะที่นักการกำลังปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือนักเรียนข้ามถนน ท่านไม่ทราบหรือครับว่า เราจัด รปภ. ดูแลความปลอดภัยให้ลูกหลานท่าน อำนวยความสะดวกให้ท่านเวลามาติดต่อทางโรงเรียน และนักการต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า มากวาดขยะทำความสะอาด

เสร็จแล้วต้องมาพานักเรียนข้ามถนน สายมาทำห้องน้ำให้สะอาด ใกล้เที่ยงต้องเข็นอาหารมาจัดเรียงไว้ให้บุตรหลานท่านรับประทานอาหารกลางวัน บ่ายทำความสะอาดห้องน้ำอาคาร เย็นมาต้องพานักเรียนข้ามถนนกลับบ้าน แม้ฝนตกแดดออก เพื่อลูกๆ 2,400 คน และโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก แต่ต้องมาโดยผู้ปกครองด่าและจะทำร้ายร่างกาย ตอนนี้ทางโรงเรียนได้แจ้งความไว้แล้ว และมีภาพจากกล้องวงจรปิด ในนามผู้บริหารสถานศึกษา ผมขอปกป้อง รปภ. และนักการของโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ผู้บริหารโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก"

ซึ่งภายหลังจากทางโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีผู้ปกครองเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมผู้อำนวยการที่ออกโรงปกป้องบุคลากรของตัวเอง เนื่องจากถูกคุกคามด้วยความรุนแรง พร้อมกับพากันติดแฮชแท็ก #saveนักการ และ รปภ. โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก เพื่อให้กำลังใจนักการภารโรง และ รปภ. ที่ปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย

...

ขณะที่กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่า ในเวลา 16.12 น. ผู้ปกครองรายนี้ขับรถเก๋งสีบรอนซ์ทองมาจอดซ้อนที่หน้าโรงเรียน ก่อนจะจอดแช่สักพักแล้วลงจากรถมาหาลูกในโรงเรียน 1 รอบ แต่ยังไม่เจอ จึงได้กลับขึ้นมานั่งในรถเวลา 16.18 น. ก่อนจะขยับไปจอดที่กลางถนนหน้าประตูทางเข้าโรงเรียน แล้วลงจากรถมาอีกครั้งในเวลา 16.21 น. ก็ได้เจอกับครูเวรและครูฝ่ายการเงิน บอกขอความร่วมมือให้ขยับรถ พร้อมกับชี้ไปที่รถและโบกมือในลักษณะว่าไม่ได้ ทำให้ผู้ปกครองย้อนกลับไปขึ้นรถอีกครั้ง

ซึ่งก่อนที่จะขึ้นรถได้หันมาพูดกับครูว่าจอดแค่แป๊บเดียว ก่อนจะขับรถขยับออกไป และไปวนมาจอดที่ฝั่งตรงข้าม สักพักผู้ปกครองรายนี้ข้ามถนนมารับลูกในโรงเรียน ก่อนจะเข้าไปในโรงเรียนตามหาลูกแล้วถือกระเป๋าและจูงแขนลูกออกมาข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้ามในเวลา 16.25 น. ก่อนจะเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันกับนักการ โดยผู้ปกครองได้เดินย้อนกลับมาพร้อมกับทิ้งกระเป๋าของลูกลงพื้น และปะทะคารมกัน ผลักกันไปมาจน รปภ. และครูต้องวิ่งเข้าไปช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน แล้วผู้ปกครองก็เดินกลับไปขึ้นรถขับกลับออกไป

ขณะที่วงจรปิดฝั่งตรงข้ามจะได้ยินเสียงของทั้งสองฝ่ายด่าตอบโต้กันด้วยคำหยาบ โดยมีนักเรียนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างหันไปดู และยืนนิ่งประมาณ 3 นาที เหตุการณ์จึงคลี่คลาย

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ซึ่งมีป้ายห้ามจอดตลอดแนว และมีจุดรับส่งเฉพาะรถจักรยานยนต์ รวมทั้งป้ายขอพื้นที่คืนจากพ่อค้าแม่ค้าให้เด็กนักเรียนยืนรอขึ้นรถผู้ปกครองกลับบ้านด้วย

นายพัฒนา ยอดสะอึ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก เผยว่า ในช่วงเกิดเหตุ คือช่วงเลิกเรียนวานนี้ (29 ส.ค. 2567) เวลาประมาณ 16.30 น. ทาง รปภ. ของโรงเรียนมารายงานกับตนเองว่า มีผู้ปกครองมาด่า ทั้ง รปภ. และนักการ พร้อมทั้งจะทำร้ายนักการด้วย แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง เพราะมี รปภ. และบุคลากรของโรงเรียนเข้ามาแยกทัน แต่เกิดการผลักอกกันไปมา

ซึ่งทาง รปภ. รายงานว่าถูกด่า และจะทำร้ายนักการโดยไม่ทราบสาเหตุ พอตนเองได้รับรายงาน ก็ได้สอบถามครูในโรงเรียนว่าใครเห็นเหตุการณ์พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน ทราบว่า มีครูเวรที่ดูแลปัญหาจราจร ได้ทำการโบกรถอยู่กับครูฝ่ายการเงินที่กำลังรอรถกลับบ้าน ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.1 ได้ลงจากรถที่จอดอยู่กลางถนนลงมา

ครูฝ่ายการเงินจึงขอความร่วมมือกับทางผู้ปกครองให้เลื่อนรถออก เนื่องจากขวางการจราจรอยู่ในเลนซ้อนคัน และทำให้รถของผู้ปกครองคนอื่นที่มารับลูกเช่นกันนั้นติดขัด ไม่สามารถขับไปได้ ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ปกครองรายนี้จะรู้สึกอย่างไร แต่ได้พูดว่าจอดแป๊บเดียวเอง ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป แล้วไปจอดที่ฝั่งตรงข้าม ก่อนเดินข้ามถนนมารับลูกที่อยู่ในโรงเรียน

ทางครูได้สอบถามไปทางผู้ปกครอง ซึ่งเป็นแม่นักเรียนบอกว่า สามีโมโหที่ครูเวรมีการชี้หน้าไม่ให้จอด ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งข้อมูลจากครูและกล้องวงจรปิดยืนยันได้ว่า ไม่ได้มีการชี้หน้าแต่อย่างใด แต่เป็นการขอความร่วมมือไม่ให้จอดรถ และ รปภ. กับนักการก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ถูกด่าก่อน

...

ทางนักการจึงเกิดการตอบโต้ โดยสอบถามไปจนมีปากเสียงกันเกิดขึ้นดังกล่าว หรืออาจเป็นเพราะผู้ปกครองโมโหที่ได้มารับลูกแล้วหาลูกไม่เจอ เพราะปกติจะเป็นแม่ของนักเรียนมารับ และอยากจะขอความร่วมมือกับผู้ปกครองในเรื่องดังกล่าวในการรักษากฎระเบียบการจราจรหน้าโรงเรียน เพื่อให้เป็นแบบอย่างต่อไปแก่ลูกหลาน

หลังจากนั้นจึงได้ลงแจ้งในเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ รปภ. และนักการที่เผชิญเหตุการณ์ดังกล่าว และอยากให้ผู้ปกครองได้รับทราบว่าสิ่งที่ผู้ปกครองทำนั้น เรามีข้อมูลและภาพจากกล้องวงจรปิด อยากให้มาพูดคุยกับทางโรงเรียน ทำความเข้าใจว่าการกระทำดังกล่าวนั้นไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งทางโรงเรียนได้มีการจัดการจราจรใหม่ในการรับส่งนักเรียนไม่ให้จอดแช่ เพราะที่ผ่านมาจะมีการจอดแช่และจอดซ้อนคันถึง 3 เลน ทำให้รถติดถูกร้องเรียนมาตลอด

ทางโรงเรียนจึงได้พูดคุยร่วมกันกับหลายฝ่าย ทั้งผู้บริหารโรงเรียนและผู้ปกครอง ในการแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าโรงเรียน โดยให้เป็นการชะลอรับเพียงชั่วคราวไม่ให้จอดแช่รอหน้าโรงเรียน พร้อมทั้งจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ครูเวรในแต่ละวันพานักเรียนมาส่งขึ้นรถของผู้ปกครองกลับบ้าน จะทำให้เกิดการจราจรคล่องตัว แต่เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนัก ครูเวรไม่สามารถออกไปตามถนนได้ นักเรียนจึงพากันอยู่ในโรงเรียนหน้าทางออก รอให้ผู้ปกครองมารับทีละคน

...

แต่ปกติถ้าไม่มีฝนตกเราจะมีครูเวรยืนคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน และผู้ปกครองอยู่ด้านหน้าโรงเรียน ซึ่งยังได้รับความร่วมมือกับพ่อค้าแม่ค้าขยับออกจากหน้าโรงเรียนอีกด้วย ส่งผลให้การจราจรดีขึ้น และสามารถรับบุตรหลานกลับบ้านได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

แต่สำหรับผู้ปกครองท่านดังกล่าว ก็ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร จึงได้กระทำการดังกล่าวลงไป และได้รับการแจ้งมาจากผู้ปกครองรายดังกล่าวจะเข้ามาขอโทษทางโรงเรียนแต่เช้านี้ก็ไม่มา และไม่พาลูกมาเรียนหนังสือด้วย พร้อมทั้งระบุว่าเวลามีค่า โดยทางโรงเรียนจะมีการทำหนังสือเชิญผู้ปกครอง เพื่อมาพูดคุยกันในการหาทางออกร่วมกัน และขอความร่วมมือในกรณีที่มารับส่งนักเรียน ให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางโรงเรียนมีร่วมกันกับผู้ปกครองท่านอื่นๆ

หากในช่วงดังกล่าวยังไม่สามารถรับลูกได้ ก็อยากให้เลื่อนไปก่อนเพื่อให้ผู้ปกครองคนอื่นได้รับลูกกลับบ้าน และค่อยวนมาใหม่ และในฐานะผู้บริหาร ก็ได้ให้ขวัญกำลังใจกับทาง รปภ. และนักการ ซึ่งมีขวัญกำลังใจดี บอกว่าถ้าไม่ถูกกระทำก่อนก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ในส่วนของการแจ้งความนั้น ทางโรงเรียนได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว เพื่อรอพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน แต่ในส่วนของผู้ปกครองยืนยันกลับมาว่าไม่ได้ผิดอะไร พร้อมกับแจ้งความกลับ แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ ก็จะต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองต่อไป

...

ด้าน นายชัชวาลย์ ปาระมี อายุ 46 ปี นักการภารโรงที่มีปากเสียงกับผู้ปกครองรายดังกล่าว เผยว่า ช่วงดังกล่าวเป็นช่วงเลิกเรียน ขณะนั้นตนเองปฏิบัติหน้าที่พานักเรียนข้ามถนน ก็เห็นผู้ปกครองคนดังกล่าว คาดว่าจะมีอารมณ์ร้อนมาก่อนแล้ว พอเดินมาเฉียดตนเองใกล้ๆ จู่ๆ ก็สบถคำหยาบด่าขึ้นมาเสียงดังมาก

ตนเองก็งงว่าทำไมพอมาใกล้ตนเองแล้วมาขึ้นเสียงด่า ตนเองจึงเข้าใจว่าด่าตนเองหรือไม่ เพราะบริเวณนั้นไม่มีใคร ตนเองก็ถามว่าด่าใคร ซึ่งผู้ปกครองบอกว่าด่าลูก ตนเองก็ด่ากลับขึ้นไป ผู้ปกครองจึงเดินกลับมาผลัก และมีอารมณ์โต้เถียงกัน ก่อนที่จะมีนักการ รปภ. และครู เข้ามาช่วยแยก

ซึ่งก่อนที่ผู้ปกครองคนนี้จะมาด่าตนเองนั้น ได้ด่า รปภ. ที่อยู่ตรงกลางถนนก่อน แต่ รปภ. ไม่สนใจ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่อยู่เช่นกัน กระทั่งเดินมาถึงตนเอง และด่าตนเองด้วยคำหยาบ ตนเองจึงไม่ยอมตอบโต้คืน ตอนนี้ยังไม่ได้เจอและคุยกับผู้ปกครองรายนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว อยากจะฝากถึงผู้ปกครองให้ใจเย็นๆ เพราะทางโรงเรียนเพิ่งจะจัดการจราจรใหม่ หรือหลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ จนนำไปสู่การปะทะกัน ก็อยากจะฝากเรื่องนี้เอาไว้ด้วย.