"ชาวกาฬสินธุ์" ร้อง "ปลัด มท." สางปัญหา "โครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร" งบกว่า 5 ร้อยล้านบาท ด้านเครือข่ายภาคประชาสังคมฯ ฝากตรวจสอบ "โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท" ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง งบ 540 ล้าน หลังผู้รับเหมาทิ้งงาน 

จากกรณีปัญหาร้องเรียน 8 โครงการก่อสร้าง เพื่อพัฒนาและป้องกันปัญหาน้ำท่วม จุดสำคัญ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่แล้วเสร็จสักโครงการ จนถูกประณามว่า "โครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร" งบประมาณกว่า 545 ล้านบาท ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาการร้องเรียนดังกล่าว ล่าสุดกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียล ทำนองว่า นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ อุ้มผู้รับเหมาขาใหญ่ เนื่องจากมีการแชร์คลิปการประชุม คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2567 ที่ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ระบุว่า "ปัญหาก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ผู้รับเหมาทิ้งงาน เกิดจากการขาดสภาพคล่อง แต่เป็นผู้รับเหมากาฬสินธุ์ ความเดือดร้อนที่กาฬสินธุ์ก็น่าจะพอเข้าใจได้ หากเป็นผู้รับเหมาที่อื่นมาสร้างความเสียหายก็ควรที่จะดำเนินการ แต่เมื่อเป็นผู้รับเหมาบ้านเราก็ควรที่จะสนับสนุนกันไป" จากคำพูดดังกล่าวจึงทำให้ชาวบ้านที่ฟังคลิปถึงกับอึ้ง และวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเฉพะในชุมชนเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวมานานถึง 5 ปี

...

จากการสอบถาม นายดำรงค์ศักดิ์ ข้าราชการบำนาญ หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบเปิดเผยว่า ตนรู้สึกผิดหวังกับคำพูดของผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ที่ให้ความสำคัญกับผู้รับจ้างมากกว่าชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพราะการก่อสร้างที่ล่าช้าสร้างไม่เสร็จ สร้างความบอบช้ำและทรมานกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในจุดก่อสร้าง สร้างไม่เสร็จซะที ทิ้งท่อระบายน้ำขนาดใหญ่เอาไว้นานกว่า 5 ปี ประชาชนที่สัญจรและอาศัยอยู่ใกล้เส้นจุดก่อสร้างต้องเสี่ยงต่อการดำเนินชีวิตตามปกติ แล้วยังต้องเสี่ยงต่อสิ่งปฏิกูลที่จะนำสารพัดโรคมากับน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เมื่อผู้ว่าฯ พูดอย่างนี้ ตนรู้สึกเสียใจจริงๆ

"ตนติดตามปัญหานี้ และเป็นหนึ่งในผู้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ครั้งที่ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงปี 2565 เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและได้รับการแก้ไข แม้ที่ผ่านมาจะมีเพียงฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์เข้ามาช่วยเหลือพูดคุยให้กำลังใจ ชาวบ้านก็ยังพอเข้าใจและรู้สึกดีใจที่มีการพูดคุยอธิบายปัญหา อีกทั้งเข้าใจว่าผู้รับจ้างขาดสภาพคล่องจึงมีการต่อสัญญาเพื่อให้โอกาสผู้รับจ้างค่าปรับเป็น 0 บาท ตาม ว.1459 จนมีการเบิกจ่ายทั้ง 8 โครงการ รวม 250 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่ก่อสร้าง ทราบจากกลุ่มแรงงานว่าสาเหตุที่ไม่ก่อสร้างเพราะไม่ได้รับค่าจ้างจาก 2 หจก.รายใหญ่ของจังหวัด ที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทั้งที่ 2 หจก.นี้เป็นคนกาฬสินธุ์ มีฐานะร่ำรวย ทำไมถึงไม่ก่อสร้างให้เสร็จ และไม่คิดถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับคนกาฬสินธุ์ด้วยกัน แทนที่กรมโยธาฯ ให้โอกาสทำงาน ก็ควรที่จะสร้างบ้านเมืองของตัวเองให้เสร็จ เจริญสวยงาม และก้าวหน้า เพราะเมื่อแล้วเสร็จประชาชนก็จะสรรเสริญ" นายดำรงค์ศักดิ์ กล่าว

นายดำรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมาถึงยุค นายสนั่น พงษ์อักษร เป็นผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน ตนก็รู้สึกดีใจเพราะท่านเคยเป็นอดีตรองผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ถึง 4 ปี ที่ได้รับโอกาสจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) และไปเติบโตเป็นผู้ว่าฯ นราธิวาส และได้ย้ายกลับมาเป็นผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ที่คิดว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา เพราะวันที่ท่านเดินทางมาปรากฏตามข่าวที่จวนผู้ว่าฯ ท่านได้ประกาศต่อหน้าข้าราชการ พ่อค้าคหบดี และประชาชนชาวกาฬสินธุ์ที่ไปต้อนรับว่า "จะทำ จ.กาฬสินธุ์ ให้ดีกว่าเดิม" แต่เมื่อเวลาผ่านไปประกอบกับชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนร้องเรียนสื่อมวลชน ตีแผ่ปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร กลับกลายเป็นว่าข้าราชการในจังหวัดกลับไม่มีท่าทีใดๆ ไม่เห็นมีการส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาสอบถามสารทุกข์สุขดิบของชาวบ้าน ไม่มีแผนการแก้ไขช่วยเหลือ มีเพียงอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองเข้ามาตรวจพื้นที่ และประกาศจะยกเลิกงานก่อสร้าง แถมให้สัมภาษณ์ว่าจะขอให้ผู้ว่าฯ ช่วยเข้ามาดูแลประชาชน และผู้ได้รับผลกระทบ

"แต่การที่ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ออกมาพูดในที่ประชุมเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ถึงประเด็นโครงการ 7 ชั่วโคตร ตนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น แทนที่จะบอกว่าจะเยียวยาช่วยเหลือประชาชนอย่างไรจะดีกว่าหรือไม่ หรือบอกว่าขณะนี้จังหวัดมีแผนที่จะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนอย่างไร ปัญหานี้ยังมีกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างจาก 2 หจก.ทิ้งงาน ครอบครัวพวกกลุ่มแรงงานเขาจะอยู่กันอย่างไร หากยังไม่มีแผนช่วยเหลือประชาชน ตนก็ขอเรียกร้องให้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง และดูแล จ.กาฬสินธุ์ ในทางปกครอง ได้เข้ามาดูแลปัญหาแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบได้รับการช่วยเหลือ ดีกว่าปล่อยให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาแบบนี้เลย" นายดำรงค์ศักดิ์ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าว

...

ด้าน นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การตรวจสอบ 8 โครงการ โดยเครือข่ายภาคประชาสังคม ขณะนี้ลงไปสอดส่องเกือบครบแล้ว สภาพทิ้งงานไม่น่าดูมีเพียงกองวัสดุ เสาเข็ม ก้อนหิน ที่วางทิ้งระเกะระกะ ไม่มีคนงาน กระทบสภาพแวดล้อมของชุมชน และพื้นที่การทำงานมี 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชน ชาวบ้านที่หมดความอดทนและต้องการให้เร่งแก้ไข โดยเฉพาะในเขตตลิ่งแม่น้ำชี-ลำน้ำพาน-ลำน้ำปาว ชาวบ้านวิตกกังวลว่าหากฝนตกลงมาจะทำให้เกิดน้ำท่วมและไปทำลายงานที่ผู้รับจ้างเบิกเงินไปแล้ว ชาวบ้านทุกคนรู้สึกเสียดายงบประมาณแผ่นดิน เพราะเป็นภาษีของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ การที่ได้รับการจัดสรรมา ประชาชนควรจะได้รับประโยชน์

...

นายชาญยุทธ กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากปลัดกระทรวงมหาดไทยจะลงมาแก้ไขปัญหา ตนก็ขอให้ตรวจสอบไปถึงกรณีการบอกเลิกสัญญาของกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม (ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567) ที่มีการเผยแพร่ทางโลกออนไลน์ไปว่า โดยระบุว่า กรมทางหลวงชนบท อยู่ระหว่างการบอกเลิกสัญญา กับห้างหุ้นส่วนจำกัดประชาพัฒน์ ผู้รับจ้าง โดยเนื้อหาทำงานไม่เสร็จตามสัญญา ตามโครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท สาย รย.3013 แยก ทล.331- ทล.3191 ช่วง กม.0+014.274-กม.16+475 พื้นที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ระยะทาง 16.460 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณ 540 ล้านบาท ว่า เป็น หจก.เดียวกันที่ทิ้งงานใน จ.กาฬสินธุ์ ด้วยหรือไม่ เพื่อเรียกค่าเสียหายคืนเงินภาษีให้กับแผ่นดินต่อไป.