ธ.ก.ส.แจงปมขอคืนพื้นที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น เผยมีแผนปรับปรุงพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปรับปรุงลานตากข้าว-ทำโกดังเก็บข้าวที่ทันสมัย เพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกรกรรายย่อย ยันทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความเป็นธรรม-โปร่งใส อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายทุกขั้นตอน

จากกรณีที่ชาวบ้านสมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้า บริเวณสี่แยกถนนศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมและสื่อมวลชน กรณี ธ.ก.ส.มีหนังสือให้ออกจากพื้นที่ ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.)

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทาง ธ.ก.ส.ได้ออกหนังสือชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องต่อประเด็นดังกล่าว ขอเรียนชี้แจงดังนี้ 1. ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นก่อตั้งเมื่อปี 2533 ใช้เป็นตลาดการซื้อขายผลผลิตที่มีมาตรฐาน ทั้งด้านคุณภาพและการรักษาเสถียรภาพด้านราคา สร้างความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิต และลดปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจากการขายผลผลิตของเกษตรกร และเป็นที่ตั้งสาขาของ ธ.ก.ส. โดยเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น

2. ในเวลาต่อมา เกษตรกรกลุ่มจำหน่ายพันธุ์ไม้ 12 ราย ประสบปัญหาไม่มีสถานที่จำหน่ายสินค้า ธนาคารจึงให้เกษตรกรใช้พื้นที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นจำหน่ายสินค้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยรับผิดชอบจ่ายค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และค่าเก็บขยะเอง ปัจจุบันมีผู้ใช้พื้นที่ 41 ราย

3. ที่ดินแปลงดังกล่าวใช้ในกิจการของรัฐ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่ จึงขอให้ผู้ค้าทั้งหมดย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นประโยชน์โดยรวมต่อเกษตรกร ในปี 2561 ธ.ก.ส.ได้เชิญกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและผู้ใช้พื้นที่ทั้งหมดหารือ และขอยุติการใช้พื้นที่ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 พร้อมส่งมอบพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากตลาด ยืดเยื้อจนถึงปี 2566

...

4. กลุ่มผู้ใช้พื้นที่ 32 คน ได้ยื่นฟ้อง ธ.ก.ส.ต่อศาลปกครองขอนแก่น แต่ศาลปกครองขอนแก่นมีคำสั่ง เมื่อ 31 สิงหาคม 2566 ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และไม่พิจารณาคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีทั้ง 32 คน

5. การใช้พื้นที่ของตลาดกลางในช่วงที่ผ่านมา ธ.ก.ส.คำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกร โดยสนับสนุนเงินทุนและเปิดโอกาสสร้างอาชีพและรายได้อย่างเต็มที่นอกจากนี้ ธ.ก.ส.มีแผนปรับปรุงพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การปรับปรุงลานตากข้าว โกดังเก็บข้าวที่ทันสมัย เพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกรกรรายย่อย ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานของความเป็นธรรมและโปร่งใส ทั้งยังให้โอกาสผู้ใช้พื้นที่มาหลายครั้ง และเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ธ.ก.ส.จึงจำเป็นต้องขอพื้นที่ดังกล่าวคืน และขอยืนยันว่าการขอคืนพื้นที่ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของความเห็นอกเห็นใจ ภายใต้กรอบของกฎหมายทุกขั้นตอน.