เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดได้แล้ว เหตุไฟไหม้ อู่เชิดชัยอุตสาหกรรม อู่ต่อรถทัวร์โดยสารใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ของ "เจ๊เกียว" ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดว่าหลายสิบล้าน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ เทศบาลนครนครราชสีมา เทศบาลตำบลปรุใหญ่ เทศบาลตำบลสุรนารี เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง เทศบาลตำบลโคกกรวด ทำการฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงไหม้ภายในอู่เชิดชัยอุตสาหกรรม ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอู่ต่อรถทัวร์โดยสารที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน โดยมีนางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมรถโดยสารประจำทางแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าของ
โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่บริเวณโกดังด้านหลัง ซึ่งเป็นพื้นที่ของแผนกทำเบาะรถทัวร์โดยสาร มีรายงานว่ารถทัวร์โดยสารที่เอามาซ่อมบำรุงถูกไฟไหม้เสียหายไม่น้อยกว่า 5 คัน พนักงานของอู่ได้นำรถมาลากเอารถทัวร์ที่เหลือออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเสียหาย ทั้งนี้ บริเวณต้นเพลิงเป็นโกดังทำเบาะจะมีวัตถุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เช่น ใยสังเคราะห์ กาบมะพร้าว พลาสติกหุ้มเบาะ ผ้าม่าน และไม้ เป็นต้น ซึ่งต้องขอรถดับเพลิงมาเสริมอีก จากกองทัพภาคที่ 2 และกองบิน 1
...
โดยนายนเรน ประเทืองไทย อายุ 64 ปี หัวหน้าแผนกไฟฟ้ารถยนต์ เปิดเผยว่า ตนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และได้ยินคนร้องตะโกนว่าไฟไหม้ จึงวิ่งไปดู ซึ่งจุดที่เกิดไฟลุกไหม้ เป็นจุดที่ต่อรถ จะมีกองขยะทั้งเศษเหล็ก เศษไม้ เบาะหนัง ซึ่งตนมาเห็นก็ตอนที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นแล้ว ถามช่างที่อยู่แถวนั้น บอกว่า ไฟลัดวงจร ทำให้สะเก็ดไฟมาโดนกองเศษไม้ เศษเบาะ จึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และลามไหม้ไปเกือบถึงกำแพงอู่ มีรถ 1 คนที่เอาออกไม่ทันไฟลุกไหม้เสียหายหมด เป็นรถรอซ่อม และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีรถถูกไฟไหม้เพิ่มอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์เมื่อเวลา 10.45 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่ยังคงให้รถดับเพลิงหลายคันฉีดน้ำเพื่อสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังอาคารอื่นๆ ซึ่งในอู่แห่งนี้มีรถทัวร์โดยสารที่ทางอู่เชิดชัยได้รับมาประกอบ และซ่อมบำรุง อยู่กว่า 200 คัน โดยมีนายอัสนี เชิดชัย บุตรชายของนางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว เป็นผู้ดูแลกิจการดังกล่าวแทนนางสุจินดา ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดว่าหลายสิบล้านบาท