ครอบครัวนักศึกษาเภสัช ม.ขอนแก่น นอนไม่หลับ หลังรับหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ฉบับที่ 2 โดนบริษัทอาหารเสริมฟ้องอาญา หลังก่อนหน้านี้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน แม่ยอมรับตัวเองไม่มีทางสู้ สภาทนายความช่วยว่าความให้เกรงกระทบอนาคตเด็ก

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 66 กรณีนางสาวนันท์นภัส ไชยทะเศรษฐ 45 ปี ชาวบ้าน ม.6 อ. ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่ออยากให้เป็นตัวกลางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว หลังจากนางสาวอามานา อายุ 19 ปี ลูกสาวของตัวเองกินอาหารเสริมเข้าไปจำนวน 1 เม็ดตอนกลางคืน รุ่งเช้าวันที่ 26 พ.ค. 66 เดินทางไปตรวจร่างกายเพื่อต้องการเอาผลไปแนบประกอบในการมอบตัวเรียนคณะเภสัช มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 31 พ.ค. แต่ปรากฏว่าแพทย์พบสาร "เมทแอมเฟตามีน" ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันในยาบ้าอยู่ในปัสสาวะ ทำให้แพทย์ไม่กล้าออกใบรับรองแพทย์ให้ได้

อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเกิดบานปลาย หลังจากเจ้าหน้าที่เอาตัวอย่างอาหารเสริมไปตรวจไม่พบว่ามีสาร "เมทแอมเฟตามีน" รวมถึงผลการตรวจร่างกายของ น.ส.อามานา ซ้ำที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อย่างละเอียดไม่พบว่ามีสาร "เมทแอมเฟตามีน" ในร่างกายแต่อย่างใด

...

ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. 66 ครอบครัว นศ.เภสัช ได้รับหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ถูกบริษัทบริษัทอาหารเสริม ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท ทำให้ครอบครัวโดยเฉพาะ นศ.คณะเภสัช ต่างกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกังวลกับคำฟ้อง และล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 ครอบครัว นศ.เภสัช ได้รับหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์อีก 1 ฉบับ แต่คราวนี้เป็นความอาญาฟ้อง นศ.เภสัช เป็นจำเลยที่ 1 น.ส.นันท์นภัส ผู้เป็นแม่เป็นจำเลยที่ 2 ซึ่งในเอกสารจากสารระบุคำฟ้องแพ่ง และความอาญา ฟ้องในวันเดียวกันแต่เอกสารส่งมาถึงบ้านคนละวันกัน

ต่อมาได้มีนายพลกฤต เนาว์ประโคน ที่ปรึกษาสภาทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกมาระบุว่า หลังทราบเรื่องราวมาก่อนหน้านี้ ได้รับการประสานมาจาก ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย ว่าจะเข้ามาช่วยว่าความให้ในกรณีดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ เพราะสภาฯ เห็นใจนักศึกษาคณะเภสัช มข. และครอบครัว และเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็ก เบื้องต้นจะขอตรวจสอบเอกสารคำฟ้องก่อน เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเด็กต่อไป

ด้าน น.ส.นันท์นภัส แม่ นศ.เภสัช กล่าวว่า ตอนที่ได้รับหมายศาลครั้งแรกก็ตกใจแล้วเพราะบริษัทเรียกค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท แต่มาได้อีก 1 หมายเป็นความอาญา ยิ่งตกใจและเป็นกังวลมาก เพราะถือว่ารุนแรงเกินไปที่ครอบครัวเล็กๆ อย่างเราจะทานได้ ที่ผ่านมาการร้องสื่อเราไม่เคยเอ่ยชื่อผลิตภัณฑ์ ไม่มีภาพผลิตภัณฑ์ปรากฏ สาเหตุที่ร้องสื่อเพราะต้องการหาความชอบธรรมให้กับลูกสาว ที่ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยกินยาชนิดใดๆ มาก่อน ทั้งยังต้องเร่งหาความจริงโดยเร็วเพราะลูกสาวใกล้จะมอบตัวเรียนเภสัชที่ลูกตั้งใจเอาไว้ ตอนนี้ใจชื้นขึ้นมาบ้างที่มีสภาทนายความยื่นมือมาช่วยเหลือ ห่วงแต่ลูกสาวที่ทั้งเรียนทั้งรับเรื่องราวที่โหมเข้ามา.

...