ที่สกลนคร เกิดพายุใหญ่พัดต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับ กุฏิหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส ต้นไม้ที่ล้มทับหักครึ่ง กุฏิเสียหายเพียงเล็กน้อย เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจของเหล่าศิษยานุศิษย์
ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ของธรรมยุติกนิกาย หรือสายกรรมฐานพระป่า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในพื้นที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ได้มีฝนตกหนักจนเกิดต้นไม้โค่นล้มหลายจุด รวมถึงบริเวณที่กุฏิ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ต้นไม้โค่นล้มใส่กุฏิ แต่กุฏิไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนต้นไม้ใหญ่ที่ล้มใส่หักเป็น 2 ท่อน เรื่องราวมีการเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กวัดป่าภูผาสูง พร้อมข้อความระบุ "น่าอัศจรรย์มากครับ ฝนตกต้นไม้ล้มทับกุฏิหลวงปู่มั่น แต่กุฏิไม่เป็นอะไร ต้นไม้หัก 2 ท่อนครับ วัดป่าบ้านหนองผือ สกลนคร"
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง วัดป่าภูริทัตตถิราวาส เดิมทีบริเวณดังกล่าวเป็นป่าดงพงดิบ ต่อมามีชาวบ้านแผ้วถางทำการเกษตร ขณะนั้น พระอาจารย์หลุย จนฺทสาโร ธุดงค์ปลีกวิเวกทำที่พักสงฆ์ชั่วคราว ทำให้มีพระภิกษุสามเณรเดินธุดงค์สัญจรเข้าพักพิงอยู่ไม่ขาดสาย สถานที่แห่งนี้จึงพัฒนาเป็นวัดในเวลาต่อมา โดย พระครูวินัยมั่น ภูริทตฺโต หรือหลวงปู่มั่น เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เคยพำนักจำพรรษาอยู่ที่แห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าภูริทัตตถิราวาสตั้งแต่ พ.ศ.2488-2492
...
หลวงปู่มั่นได้ปฏิบัติตนตามแนวทางคำสอนเคร่งครัด ยึดถือธุดงค์วัตรด้วยจริยวัตรปฏิปทางดงาม จนได้รับการยกย่องจากผู้ศรัทธาทั้งหลายว่า เป็นพระผู้เลิศทางธุดงควัตร ท่านวางแนวทางในการปฏิบัติสมถะและวิปัสสนาตามหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาพุทธเจ้าให้แก่สมณะประชาชนอย่างกว้างขวาง จนมีพระสงฆ์และฆราวาสเป็นลูกศิษย์จำนวนมาก โดยลูกศิษย์เรียกว่า พระกรรมฐานสายวัดป่า หรือ พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้รับยกย่องจากผู้ศรัทธาให้เป็น พระอาจารย์ใหญ่สายวัดป่า หรือ พระอาจารย์ใหญ่แห่งวงศ์พระกรรมฐานวัดป่า สืบมาจนปัจจุบัน
จากการสำรวจบริเวณโดยรอบกุฏิหลวงปู่มั่น พบพรรณไม้ร่มรื่นเงียบสงบ มีป้ายหลักธรรมคำสอนติดไว้ให้อ่าน ส่วนกุฏิเป็นไม้ชั้นเดียวยกสูง ด้านในมีรูปหล่อเหมือนหลวงปู่มั่นไว้ให้ศิษยานุศิษย์ได้สักการะกราบไหว้ ขณะที่บนหลังคาไม้มีผ้ายางสีแดงคลุมไว้เพื่อป้องกันลมฝน ใกล้กันพบต้นไม้ที่หักโค่น ปัจจุบันถูกตัดแบ่งหลายท่อน เบื้องต้น กุฏิได้รับความเสียหายเล็กน้อยแค่ส่วนหลังคาไม้ ทางวัดกำลังดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม ส่วนต้นไม้ดังกล่าวมีความสูงประมาณ 20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 44 เซนติเมตร
นายเซียง พันธ์ณรงค์ เทพิน อายุ 28 ปี ลูกศิษย์วัด เผยว่า ช่วงเช้าเมื่อ 3-4 วันก่อน เกิดฝนตกประมาณหนึ่งชั่วโมงและลมแรง จึงทำให้ต้นไม้ต้นหนึ่งหักโค่นล้มลงมาอยู่บริเวณกุฏิของหลวงปู่มั่น พาดทับหลังคา ปัจจุบันหลวงปู่มั่นยังคงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของศิษยานุศิษย์ไม่เสื่อมคลาย มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบไว้ที่กุฏิแห่งนี้.