ชาวจังหวัดอุดรธานี ขอบคุณ "ลิซ่า BLACKPINK" หลังนุ่งผ้าซิ่นไปเที่ยวอยุธยา กลายเป็นสร้างมูลค่า "ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน" ให้คนทั่วโลกรู้จัก พร้อมช่วยสร้างรายได้ให้กลุ่มทอผ้า

ภายหลังจาก "ลิซ่า BLACKPINK" หรือ ลลิษา มโนบาล เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีชื่อดัง ได้โพสต์อินสตาแกรม สวมผ้าไทย "ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน" ซึ่งเป็นผ้าทอลายโบราณจากร้านชานเรือน ตลาดผ้านาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ไปเที่ยววัดที่อยุธยา กับกลุ่มเพื่อน เป็นการปลุกกระแสผ้าไทยโด่งดังรู้จักไปทั่วโลก ทำให้ยอดขายผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน ตลาดผ้านาข่า ขายดีมียอดสั่งจองจำนวนมาก ต้องรออีก 1 เดือน ถือเป็นการกระจายรายได้ให้กลุ่มทอผ้า และการท่องเที่ยวอยุธยากลับมาคึกคัก เพราะมีแฟนคลับหันมาใส่ผ้าซิ่นไทยไปเที่ยววัดอยุธยาตามรอยลิซ่า

ล่าสุด วันที่ 7 มิ.ย. 2566 นางสุวิมล ไชยวงศ์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านชานเรือน นาข่า คุณแม่ของนางเอกสาว "เดียร์น่า ฟลีโป" นักแสดงสังกัดช่อง 3 เล่าว่า ผ้าลายขอนาคมียอดสั่งซื้อเข้าเป็นจำนวนมาก ไม่มีในสต๊อก ตอนนี้เร่งทอตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า ต้องรออย่างน้อย 1 เดือน ตามคิวสั่งจอง เพราะเป็นงานทอมือ ซึ่งคนที่จะตามรอยน้องลิซ่าต้องเป็นผ้าทอมือเท่านั้น

...

สำหรับผ้าซิ่นที่ตัดสำเร็จแล้วราคาจะอยู่ที่ 2,800 บาท ทุกไซส์ ทุกขนาด ขอบคุณที่ช่วยให้ทุกคนหันมาอุดหนุนผ้าทอมือ เป็นการสร้างมูลค่าให้กับผ้าทอมือในทุกขั้นตอน เริ่มจากมัดหมี่ ย้อมคราม ทอมือ ซึ่งตอนนี้จะทำลายที่น้องลิซ่าสวมใส่ เพื่อรองรับลูกค้าที่เป็นแฟนคลับน้องลิซ่า

ส่วน นางรัชนก วงแก้ว เจ้าของร้านวงแก้ว ผ้าทอมือที่ตลาดผ้านาข่า เล่าว่า อยากขอบคุณลิซ่าที่ทำให้คนไทยหันมาใส่ผ้าซิ่น ผ้าทอมือ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงคู่สังคมไทย วันนี้ผ้าทอมือเงียบเหงามาก ทุกคนหันไปสวมใส่ผ้าพิมพ์ที่ทำเรียนแบบผ้าทอมือ เพราะราคาถูกกว่า สวยกว่า แต่สวมใส่ไม่สบาย เพราะเนื้องผ้าแข็ง สีตก ใส่นานๆ สีซีด

ในขณะที่ผ้าทอมือสวมใส่เย็นสบาย ยิ่งใส่ยิ่งนิ่ม สีไม่ตก สีสันคงทนสวยงาม จึงอยากเชิญชวนประชาชนอุดหนุนผ้าทอมือ เพื่อช่วยกระจายรายได้แก่ชุมชน ผ้าทอมีคุณค่าทางจิตใจ เป็นจิตวิญญาณ ภูมิปัญญาบรรพบุรุษ ช่วยอุดหนุดผ้าทอมือ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการอยู่ได้ รายได้หมุนเวียนในชุมชน

ทางด้าน นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ออกมาขอบคุณ ลิซ่า BLACKPINK ที่ทำให้ผ้าย้อมครามหมักโคลนจากร้านชานเรือนนาข่า ตลาดผ้าบ้านนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เป็นที่รู้จักแก่สายตาชาวโลก ทำให้เกิดกระแสมีคนมาติดตามซื้อผ้าที่น้องลิซ่าสวมใส่เป็นจำนวนมาก

สำหรับจังหวัดอุดรธานี มีกลุ่มที่ทำการทอผ้ากว่า 500 กลุ่ม มีสมาชิกจำนวน 2,500 คน มีรายได้จากการจำหน่ายผ้าในปีที่ผ่านมาสามพันกว่าล้านบาท และจังหวัดอุดรธานียังได้มีการส่งเสริม เพิ่มทักษะให้กับกลุ่มอาชีพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการอบรมให้ความรู้ในด้านการย้อมสีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผ้าที่มีความสวยงาม และเป็นการลดการใช้สารเคมี รวมทั้งสอดคล้องกับกรอบแนวคิดสิ่งทอรักษ์โลก BCG Model อีกด้วย.