"มนพร เจริญศรี" ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 นครพนม แจ้งความเอาผิดคนปูดข่าวเท็จ พท.ซื้อเสียง จับพ่อค้าแฟนคลับเพื่อไทยเป็นแพะ-แถมยึดเงินค้าขาย หวังดิสเครดิต-ตัดคะแนนนิยมช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66 ที่ สภ.เมืองนครพนม ดร.มนพร เจริญศรี ว่าที่ ส.ส. นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมพยานนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลไม่หวังดี ฐานความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีมีสื่อบางสำนักรวมถึงกลุ่มบุคคลนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เผยแพร่หวังตัดคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง หลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครพนม ร่วมกับฝ่ายสืบสวน กกต.นครพนม เข้าตรวจสอบชายต้องสงสัย คือ นายมานพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อาชีพพ่อค้า อีกทั้งยังเป็นแกนนำสนับสนุนพรรคเพื่อไทย พร้อมมีการตรวจสอบยึดเงินสด ขณะขับรถยนต์กระบะ ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของมาขาย เหตุเกิดบริเวณบ้านแพงสะพัง-หนองไฮ ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยยึดเงินสดจำนวน 195,000 บาท แต่ไม่พบเอกสารหลักฐานเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการซื้อเสียง หลังตรวจสอบขยายผลไม่พบความผิดเชื่อมโยงกับการซื้อเสียง จึงมีการคืนเงินกับเจ้าของภายหลัง
โดย ดร.มนพร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีสื่อบางสำนัก รวมถึงกลุ่มคนไม่หวังดี นำข้อมูลเท็จบิดเบือนความจริงไปเผยแพร่ กล่าวหาว่าจับกุมแกนนำหาเสียงพรรคเพื่อไทย พร้อมเงินสดซื้อเสียงนำไปเผยแพร่ตามสื่อโซเชียล ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เป็นการดิสเครดิต ใส่ร้ายป้ายสี และสร้างความเสื่อมเสียให้กับผู้สมัคร รวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่จะมีผลทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทย วันนี้ตนจึงต้องนำพยานหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเอาผิดตามกฎหมาย
...
ดร.มนพร เจริญศรี กล่าวต่อว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานสำคัญมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย กรณีมีกลุ่มคนไม่หวังดี เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีการจับกุม ตรวจยึดเงินสด หัวคะแนนของพรรคเพื่อไทยนำไปซื้อเสียง พร้อมมีการเผยแพร่ออกสื่อบางสำนัก ทั้งที่เป็นการตรวจสอบพ่อค้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและยึดเงินสด แต่ไม่มีหลักฐานการซื้อเสียง แต่คาใจไม่มีการคืนเงินทันที พร้อมมีการบิดเบือนข้อมูลว่านำเงินไปซื้อเสียง ทำให้ตนในฐานะผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม รวมถึงพรรคเพื่อไทยเสียชื่อเสียง และมีประชาชนเข้าใจผิดว่าทำการทุจริตการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายเป็นเพียงยึดเงินไปตรวจสอบ และไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงการซื้อเสียง ไม่มีความผิด มั่นใจว่ามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเจตนาดิสเครดิตทางการเมืองช่วงเลือกตั้ง และเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่หวังผลจากข่าวเท็จ ตัดคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมสูง มีนโยบายที่ชัดเจน และเชื่อว่าเป็นที่ยอมรับของประชาชน ไม่จำเป็นต้องทำผิดกฎหมายในการซื้อเสียง
"อย่างไรก็ตามเมื่อมีหลักฐานชัดเจน สำหรับกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่นำข้อมูลเท็จไปเผยแพร่ถือว่าผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีทุกรายและทุกข้อหาที่เข้าข่ายความผิด และขอขอบพระคุณพี่น้องประชานที่ให้การสนับสนุน และให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย ขอทำหน้าที่อาสารับใช้ประชาชน และดูแลพี่น้องประชาชนตลอดไป ในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้หารือส่วนเกี่ยวข้องว่า มีการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจะต้องมีใบสั่งชี้เป้าจากผู้ที่ไม่หวังดีอย่างแน่นอน" ดร.มนพร กล่าว