ชน 3 คันรวด กระบะแซงไมพ้น พุ่งประสานงาเก๋งสนั่น หกล้อบรรทุกน้ำมันขับตามเบรกไม่ทันเสยท้ายซ้ำ บาดเจ็บอื้อ 9 ราย เสียชีวิต 1 ศพ

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 66 ร.ต.อ.พรรษา โพคาศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ด่านขุนทด รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำมันชนกับรถเก๋งและรถกระบะ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสาย 2256 ชัยบาดาล-ด่านขุนทด ช่วง กม.69-70 บริเวณบ้านดอนใหญ่ หมู่ที่ 4 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยปริสุทฺโธ (ฮุก31 จุดด่านขุนทด) หน่วยกู้ชีพ รพ.ด่านขุนทด และหน่วยกู้ชีพ อบต.ตะเคียน

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกน้ำมัน 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง ทะเบียนนครราชสีมา จอดอยู่ริมถนน 1 คัน สภาพด้านหน้าได้รับความเสียหายเล็กน้อย ใกล้กันพบรถเก๋งแบบ PPV ยี่ห้อซูซูกิ รุ่น XL7 สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ชนประสานงากับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียนนครราชสีมา สภาพพังยับเยินทั้งคู่ นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 10 ราย แบ่งเป็นมากับรถบรรทุกน้ำมัน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายแสงดาว ปัตถานัง อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นคนขับ และ นางเหรียญ ปัตถานัง อายุ 65 ปี นั่งข้างคนขับ ซึ่งทั้ง 2 เป้นสามีภรรยากัน

ส่วนผู้บาดเจ็บที่มากับรถกระบะ มีทั้งหมด 4 ราย ทราบชื่อคือ นายเข็มทอง กอนาค อายุ 49 ปี คนขับ, นายปรีชา บัวแดง อายุ 21 ปี, นายอนวัฒน์ คำมูล อายุ 19 ปี, และนายอรรถชัย คำมูล อายุ 13 ปี ขณะที่รถเก๋งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายเช่นกัน ทราบชื่อคือ นายวิรุฬ ศิริสาร อายุ 41 ปี คนขับ, ด.ช.รชต ศิริสาร อายุ 8 ปี ลูกชาย, ด.ช.พศิน ศิริสาร อายุ 2 ปี ลูกชาย, และ น.ส.ชนะวรรณ ศิริสาร อายุ 31 ปี ภรรยา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือคนเจ็บทั้งออกจากซากรถ และรีบนำตัวส่ง รพ.ด่านขุนทด แต่ น.ส.ชนะวรรณ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน นายวิรุฬ คนขับรถเก๋ง และ นายเข็มทอง กอนาค คนขับรถกระบะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาต่อ ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา

...

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถเก๋งและรถบรรทุกน้ำมันวิ่งตามกันมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสองเลนวิ่งสวนทางกัน และเป็นช่วงลาดชันลงเนิน จังหวะนั้นรถกระบะขับแซงขวาขึ้นมาด้วยความเร็ว จึงพุ่งประสานงากับรถเก๋งเข้าอย่างจัง ส่วนรถบรรทุกน้ำมันที่ขับตามหลังมาเบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนท้ายรถเก๋งจากด้านหลัง เป้นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเร่งทำการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป