ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นัดชุมนุมให้นายทะเบียนทบทวนคำสั่ง ปมออกระเบียบให้ ผจก.สหกรณ์ต้องหยุดปฏิบัติงานเมื่ออายุ 60 ปี โดยไม่มีการสอบถาม ชี้คำสั่งขัดต่อ รธน.ยันสู้ถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ โรงแรมตักสิลา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดประชุมชมรม (นัดพิเศษ) โดยนายสำรวย นิลกิ่ง ประธานชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้แทนสหกรณ์เข้าร่วมประชุม ทั้งสิ้น 111 สหกรณ์ จาก 21 จังหวัด จำนวน 277 คน ประกอบด้วยผู้แทนสหกรณ์จาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง เข้าร่วมประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ถึง ปัญหาและอุปสรรคต่อการดำเนินงานของสหกรณ์เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ คําสั่ง คำแนะนํา ของนายทะเบียนสหกรณ์ รองนายทะเบียนสหกรณ์ ในยุคปัจจุบัน เพื่อสะท้อน ปัญหาและอุปสรรคถึงผู้มีอำนาจในการออกกฎหมาย ระเบียบ คําสั่ง คำแนะนํา ต่อไปโดย ผ่านสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรสูงสุดของขบวนการสหกรณ์ สหกรณ์ได้รับรู้ รับทราบและหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามอำนาจหน้าที่ที่พึ่งกระทำ และพึ่งมีได้ตามกฎหมาย รับฟังความคิดเห็นต่างๆ จากขบวนการสหกรณ์ผู้ปฏิบัติก่อน ก่อนจะออกระเบียบ คําสั่ง คำแนะนํา เพื่อให้สหกรณ์ถือปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ของ ขบวนการสหกรณ์ต่อไป

การประชุมมีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม (อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน) ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2566 (นัดพิเศษ) สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ได้รับทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็หาหนทางช่วยเหลือสหกรณ์สมาชิก และเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมปัญหาต่างๆ เพื่อ นําไปแก้ไขปรับปรุงให้เกิดประโยชน์เป็นรูปธรรม ต่อขบวนการสหกรณ์ในภาพรวมทั้งประเทศ และจะนําปัญหาต่างๆ ที่ได้รับในวันนี้ไปนําเสนอต่อผู้มีอำนาจให้รับทราบ

...

โดยมีการหยิบยกประเด็นที่ นายทะเบียนออกระเบียบให้ ผจก.สหกรณ์ต้องหยุดปฏิบัติงานเมื่ออายุ 60 ปี แบบนี้มันขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย นายทะเบียนฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ในการประกอบอาชีพของบุคคล นั้นไม่มีการออกระเบียบการกำหนดอายุคน งานอื่นมีมากมายแต่ไม่ไปทำ

เราเคยขอร้องให้ทบทวนก็ไม่ยอม สหกรณ์ไม่ใช่ส่วนราชการนายทะเบียนมีหน้าที่แค่รับจดและเลิกกิจการ ตอนนี้เราฟ้องนายทะเบียนสหกรณ์ไปกับศาลแล้ว 9 คดี และจะไปยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการออกระเบียบของนายทะเบียนสหกรณ์นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ สหกรณ์เราถูกทอดทิ้งมานาน ไม่มีใครจะมาเหลียวแล ยิ่งใกล้มีการเลือกตั้งแบบนี้เราอยากจะให้พรรคการเมืองทั้งหลายเข้ามาดูแลเราชาวสหกรณ์ให้มากขึ้นกว่านี้หน่อย

นายสำรวย นิลกิ่ง ประธานชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า หลังจากที่นายทะเบียนออกประกาศมาเมื่อ 3 เดือนที่ แล้ว เกี่ยวกับอายุของ ผจก. ไม่มีการประชาวิจารณ์หรือไถ่ถามกันเลย นายทะเบียนประกาศออกมาปัง เกิดปัญหาทันที จึงได้เกิดการประชุมกันในวันนี้เพื่อหาทางออกให้กับชาวสหกรณ์ ที่โดนนายทะเบียนและรองนายทะเบียนออกระเบียบข้อบังคับแบบนี้มีผลกระทบกับการพัฒนาองค์กรของเรา ภาคการเกษตรเราดูแลตนเองมาโดยตลอด แต่พอนายทะเบียนมาออกระเบียบแบบนี้ เกิดปัญหาขึ้นมาทันทีเหมือนเราทำงานทำความดีมาตลอดชีวิต และคุณก็มาไล่เราออกทันที เราเป็นครอบครัวใหญ่น่าจะมีการตกผลึกกันก่อน ไม่ใช่อยากจะออกประกาศก็ออกมาเลยแบบนี้

ประธานชมรมสหกรณ์การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวด้วยว่า พวกท่านออกประกาศแล้วท่านก็ย้ายไป แต่พวกเราต้องอยู่กับเกษตรกรทั้งชีวิต ถ้าเราหาข้อสรุปแล้วนายทะเบียน ท่านไม่ฟังเรา แล้วท่านดูแลใคร ท่านส่งเสริมใคร แก้ได้ไหมทบทวนได้ไหมถ้าไม่ฟังเสียงพวกเรา หรือนายทะเบียนไม่ทบทวน สหกรณ์พวกเราเป็นนิติบุคคลเราสามารถจ้างใครก็ได้ เพื่อประโยชน์ของสหกรณ์เพื่อประโยชน์ของสมาชิก เราก็พร้อมดำเนินการกันเอง ถ้ามีปัญหามากก็มาฟ้องกันเลยเจอกันที่ศาล.