เกษตรกรชาวสวนทุเรียน อ.ครบุรี นคราชสีมา เจอข่าวร้ายหลังอากาศแปรปรวนฝนตก พายุทำให้สวนทุเรียนเสียหาย ดอกร่วงจากต้น คาดหากปีนี้ทำยอดได้ 1,000 ลูกก็ถือว่าพอใจมากแล้ว จากปกติต้องได้ 2 พันลูก

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนกว่าทุกๆ ปี ในพื้นที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ส่งผลทำให้ทุเรียนของชาวสวนเกือบทุกสวน ติดผลได้น้อยกว่าปกติเกือบเท่าตัว เนื่องจากดอกทุเรียนบางร่วงหล่นเสียหายจากสภาพอากาศที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน ทำให้ทุเรียนปรับสภาพไม่ทัน ปริมาณการติดผลจึงลดลง อย่างเช่นที่สวนของนายสังคม ล้อมกระโทก วัย 58 ปี ซึ่งปลูกทุเรียนเอาไว้จำนวน 3 ไร่ ในพื้นที่บ้านหนองมะค่า ต.แชะ ซึ่งทางนางสังคมบอกว่าปีนี้ถ้าได้ทุเรียนถึง 1,000 ลูก ก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว แม้ว่าทุกปีจะได้ทุเรียนมากเกือบ 2,000 ลูกก็ตาม

นายสังคม กล่าวว่า ในปีนี้การทำทุเรียนให้ติดผลนั้นยากกว่าทุกๆ ปีอย่างมาก เนื่องจากเกิดฝนตกบ่อยครั้ง จึงทำให้น้ำในดินเกินความจำเป็น ดังนั้นการให้น้ำทำได้ค่อนข้างลำบาก เพราะตอนนี้จะมีทั้งดอกที่กำลังเป็นหางแย้ รุ่นลูกไข่นกกระทา และรุ่นที่ติดลูกสมบูรณ์แล้ว การให้น้ำจึงทำได้ยาก และไม่รู้ว่าปีนี้จะติดมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะในช่วงเดือนนี้ต่อไปถึงเดือนหน้า ยังมีช่วงที่ต้องประสบกับพายุฤดูร้อนและอากาศที่ร้อนจัด อากาศร้อนก็ดอกร่วง ฝนตกลมแรงก็ดอกร่วง แถมจะแตกยอดใหม่ทำให้ลูกที่ติดแล้วไม่สมบูรณ์และร่วงหล่นได้ง่าย

...

เจ้าของสวนทุเรียนที่ อ.ครบุรี กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญที่อาจจะทำให้ปีนี้ได้ผลผลิตทุเรียนน้อยกว่าทุกๆ ปีก็คือ ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ก่อนหน้านี้ 3–4 วันอากาศร้อนจัดในช่วงกลางวัน ขณะที่กลางคืนกลับหนาวเย็น ทำให้มีผลต่อการติดลูก และสลัดลูก และดอกร่วงหล่น เพราะทุเรียนตอนนี้มีหลายรุ่น เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนอยู่แล้ว คาดว่าปีนี้ทุเรียนน่าจะให้ผลผลิตน้อยลงจากปีที่แล้วเกือบครึ่ง โดยปีที่แล้วทุเรียนสามไร่ให้ผลผลิตประมาณ 6 ตัน ปีนี้ได้ 3 ตันก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว กับสภาพอากาศเช่นนี้

สำหรับข้อมูลการเพาะปลูกทุเรียน ล่าสุด จากทางสำนักงานเกษตรอำเภอพบว่า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีการเพาะปลูกทุเรียนกันแล้วกว่า 2,100 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอครบุรี เสิงสาง และหนองบุญมาก มีทุเรียนที่เริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วกว่า 300 ไร่ ขณะที่อำเภอครบุรีมีทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้วกว่า 230 ไร่.