ทนายความวัย 58 ปี ขับมิวเซเว่นชนดะ 9 คันรวด ขับหนีแต่ไม่รอดเพราะหม้อน้ำแตก ตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์ พุ่งกว่า 200 มก. ไปถึงโรงพักเอามือปิดปากนั่งนิ่งไม่ยอมพูด ทำให้ผู้เสียหายยิ่งโมโห
เวลา 15.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ร.ต.ท.กิตติภูมิ อรรควิทยานุกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนเมาขับรถยนต์ชนรถที่จอดติดสัญญาณไฟแดงเสียหาย 10 คัน เหตุเกิดบริเวณ สี่แยกบิ๊กซี ถนนรอบเมืองตัดกับถนนนิตโย ต.หนองบัว จึงรุดไปตรวจสอบ โดยขณะเกิดเหตุได้มีทหารจาก มทบ.24 ถ่ายคลิปไว้ และนำมาให้ผู้เสียหายเป็นหลักฐาน
ที่เกิดเหตุอยู่ถนนรอบเมืองมุ่งหน้าไปบายพาสขอนแก่น พบรถยนต์อีซูซุ Mu 7 สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 5368 ขอนแก่น ชนรถยนต์เก๋ง รถปิกอัพ รถทัวร์ รวม 9 คัน โดยรถที่ก่อเหตุได้พยายามขับหลบหนีเข้ามาตัวเมืองอุดรธานี ไปจอดที่หน้าร้านค้าส่งวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากหม้อน้ำแตกเสียหาย มีควันพวยพุ่งออกมา ทำให้ไปต่อไม่ได้ พลเมืองดีและผู้เสียหายล้อมรถเอาไว้เพื่อรอตำรวจ
เมื่อตำรวจไปถึงได้นำตัวคนก่อเหตุลงมาจากรถ ซึ่งพบว่ามีอาการมึนเมาสุรา เดินยืนยังเซ ทราบชื่อภายหลังว่านายมานะ โคตรมณี อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 604 หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น และพบบัตรทนายความ ผู้เสียหายและพลเมืองดีได้ร้องตะโกนด่าตลอดเวลา ตำรวจจึงนำเครื่องเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์มาให้เป่า ซึ่งนายมานะยอมเป่าแต่โดยดี ปรากฏว่าเป่าได้ 219 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงควบคุมไปโรงพัก พร้อมด้วยผู้เสียหายทั้งหมด
...
นายทนุธรรม บุญฤทธิ์ติกุล อายุ 43 ปี ชาวบ้านชัยพร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าของรถเก๋งเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน กน 1219 สกลนคร 1 ในผู้เสียหายที่ถูกรถนายมานะชน เผยว่า ตนกับภรรยานำรถไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และตรวจเช็กสภาพรถ ที่อู่ซ่อมรถในตัวเมืองอุดรธานี เสร็จแล้วได้ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านมาจอดติดไฟแดง ต่อมารู้สึกว่ามีอะไรมากระแทกด้านหลังรถ จนรถตนไปชนคันหน้า พอมองกระจกหลัง พบว่ารถอีซูซุ Mu7 ถอยหลังแล้วพุ่งชนรถตน 3 ครั้ง จนได้รับความเสียหาย ภรรยาบาดเจ็บที่ขา นอกจากรถตน ยังพุ่งชนรถคันอื่นเสียหายอีกหลายคัน ก่อนจะขับหลบหนี แต่รถผู้ก่อเหตุก็ได้รับความเสียหายไปต่อไม่ได้
“ฝากถึงผู้ที่ขับรถบนท้องถนน ถ้าขับรถไม่ควรดื่มเหล้า ถ้าดื่มเหล้าแล้วคนอื่นเขาเดือดร้อน ถ้าไม่เจ็บก็ตาย รถเสียหาย ดีที่ผมไม่เป็นอะไร หากบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มันจะเป็นปัญหา” ผู้เสียหายกล่าว
เมื่อมาถึงโรงพัก นายนายมานะไม่ยอมพูดกับผู้สื่อข่าว และนั่งอยู่เก้าอี้หน้าห้องสอบสวน ถูกผู้เสียหายต่อว่า และด่าทอเสียงดัง เพราะว่านายมานะ ไม่ยอมพูดอะไร ไม่ยอมขอโทษ เอาแต่นิ่งเงียบและเอามือปิดปาก ทำให้ผู้เสียหายเกิดอารมณ์ ซึ่งนายมานะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงเดินเข้าไปนั่งอยู่ในห้องกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหานายมานะ “ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และมีพฤติกรรมหลบหนี” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป