หนุ่ม รปภ.ไม่เชื่อปมชู้สาว หลังลุงหื่นลวงเมียทุบดับ-หวังทำอนาจาร ยันครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ตามผู้ต้องหาอ้างล่อลวงเมียด้วยเงิน 2000 บาท ลั่นไม่อโหสิกรรม จุดธูปบอกเมียไม่ต้องห่วง-จะดูแลลูกให้ดีที่สุด  

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ ที่ นายนิมิตร หนึ่งคำมี อายุ 57 ปี ชาวจังหวัดนครพนม ก่อเหตุล่อลวง น.ส.นฤมล วงค์ธี อายุ 40 ปี หวังทำอนาจาร แต่ถูกขัดขืนและขู่จะเอาผิดและเอาเรื่องไปฟ้องภรรยา จึงทำให้ นายนิมิตร ไม่พอใจใช้ไม้ใช้ท่อนไม้ทุบศีรษะ น.ส.นฤมล จนเสียชีวิตห่างจากบ้านพักในพื้นที่หมู่ 4 ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม ประมาณ 50 เมตร โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเกาะรอยและถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังยาง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย และส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนมต่อไป

เบื้องต้น จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า สาเหตุที่ทำไปนั้น เพราะแอบชอบผู้ตายมานานแล้ว จึงใช้วิธีการล่อลวงด้วยเงิน 2,000 บาท ก่อนจะพาไปทำอนาจารแต่ผู้ตายขัดขืน และขู่ว่าจะเอาเรื่องไปฟ้องภรรยาและเอาผิด จึงเป็นเหตุจูงใจให้ทำร้ายร่างกาย และใช้ท่อนไม้ทุบผู้ตายจนเสียชีวิต ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งตนสำนึกผิดและขอยอมรับความผิดกับการกระทำที่เกิดขึ้นด้วย

ด้าน นายชัยทอง อ่อนศรี อายุ 46 ปี สามีผู้ตาย อาชีพ รปภ.บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 12 ขวบ ปกติตนไปทำงานที่ จ.สมุทรปราการ ปล่อยให้ภรรยากับลูกสาวอยู่บ้านกัน 2 คน ส่วนภรรยามีหน้าที่เลี้ยงลูก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เพราะคุยกันทุกวัน ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวันที่ 9 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนยังโทรมาคุยสอบถามความเป็นอยู่ครอบครัวปกติทุกวัน โดยที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาครอบครัว และไม่มีปัญหาเรื่องชู้สาวนอกใจกันมาก่อน

...

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่า ล่อลวงภรรยาออกไป เพราะภรรยาต้องการเงิน 2,000 บาทนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ก่อนเกิดเหตุที่บ้านภรรยายังมีเงินสดในบ้าน นับหมื่นบาทที่เก็บไว้ใช้จ่าย และตนส่งมาให้ เดือนละเกือบ 10,000 บาททุกเดือน ไว้ใช้จ่ายและเป็นเงินเก็บดูแลลูก เพราะตนได้เงินเดือนประมาณ 15,000 บาท

"คำให้การของผู้ต้องหา ตนเชื่อว่าเป็นแค่การกล่าวอ้าง มั่นใจว่าจะต้องใช้วิธีการอื่นล่อลวงภรรยาออกไปทำร้าย และตนยังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดว่า จะเกิดเรื่องร้ายกับครอบครัว ไม่เชื่อถึงปมสาเหตุ เพราะปกติผู้ต้องหากับภรรยาเป็นเพื่อนบ้านกัน เคารพนับถือกันเสมือนญาติคนหนึ่ง รู้จักมักคุ้นกัน ภรรยาเคยว่าจ้างมาทำงานตัดหญ้าที่บ้านให้มีรายได้เสริมด้วย ไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว แต่พอตำรวจมายืนยันถึงหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงผู้ต้องหา ก็ถึงกับอึ้งโดยเชื่อมั่นว่าภรรยาไม่มีใจให้กับผู้ก่อเหตุแน่นอน มาถึงวันนี้ตนไม่ขออโหสิกรรม เพียงจุดธูปบอกวิญญาณภรรยาให้ไม่ต้องเป็นห่วง จะขอดูแลลูกเป็นอย่างดี อย่างน้อยตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ขอให้ไปชดใช้กรรมที่ก่อไว้" สามีผู้ตาย กล่าว

ด้าน น้องมิ้น อายุ 12 ปี ลูกสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ปกติตนอยู่กับแม่สองคนในบ้าน วันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม เห็นพ่อโทรมาคุยกับแม่ตามปกติ และไม่ทราบว่าคุยกับใครบ้างหลังจากนั้น เพราะตนเข้าห้องนอนก่อน จนกระทั่งเวลาประมาณเกือบ 3 ทุ่ม แปลกใจแม่ยังไม่เข้าห้องนอน จึงเดินออกมาดูก็ไม่พบ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับแม่ เพราะมีงานบุญในหมู่บ้าน นึกว่าแม่จะเข้าไปเที่ยวงาน ลองพยายามโทรศัพท์หาหลายสายแต่ก็ไม่รับ จึงเข้านอนเพราะไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เนื่องจากในพื้นที่หมู่บ้านมีแต่เพื่อนบ้านกัน ซึ่งเปรียบเสมือนญาติกันทุกคน แต่สุดท้ายไม่คิดว่าลุงที่แม่เคยเคารพเหมือนญาติ และเคยว่าจ้างมาตัดหญ้าให้ที่บ้าน ต้องมาเป็นคนทำร้ายฆ่าแม่

"ตนรู้สึกเสียใจมาก แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ และบอกกล่าวให้ดวงวิญญาณแม่ไปสู่สุขติ ไม่ต้องห่วงลูก ยังมีพ่อดูแล ยอมรับสงสารแม่มาก ต้องมาถูกทำร้ายแบบนี้ ยอมรับได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากหลังบ้าน เหมือนเสียงคนทุบตีอะไรบางอย่างแล้วเงียบไป โดยไม่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับแม่" ลูกสาวผู้ตาย กล่าว