พม.ร้อยเอ็ด และยุติธรรมจังหวัดเข้าให้ความช่วยเหลือครอบครัวเด็กหญิง 14 ปี นร.เหยื่อหนุ่มคลั่งบุกแทงตายคาโรงเรียน ขณะที่แม่ผู้ต้องหา กราบขอโทษครอบครัวเหยื่อรับลูกป่วยทางจิตเพิ่งออกจากคุกมาก่อเหตุ

ความคืบหน้าเหตุ จากเหตุการณ์เด็กหญิงอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ถูกนายปรีชา วิชัยศร อายุ 37 ปีคนในหมู่บ้านเดียวกัน ขี่ จยย.ตามรถสองแถวรับส่ง ก่อนบุกแทงเสียชีวิตที่โรงเรียนบ้านเล้าวิทยาคาร ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยผู้ก่อเหตุแทงเด็กในรถรับส่งนักเรียนในโรงเรียนบ้านเล้าวิทยาคาร จนบาดเจ็บไปเสียชีวิต ที่ รพ.ร้อยเอ็ด โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 2566 และล่าสุดญาติได้นำศพกลับไปทำพิธีที่บ้านในพื้นที่บ้านเหล่าโนนทัน ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เพื่อบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของแม่และญาติๆ 

ล่าสุดที่บ้านของน้องคิตตี้ อายุ 14 ปี นักเรียน ม.2 ผู้เสียชีวิต จากการถูกแทงกว่า 11 แผล ทางญาติและครอบครัวได้จัดงานบำเพ็ญกุศลศพให้แก่น้อง โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ขณะที่ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้แทนในการมอบพวงหรีดให้แก่น้องคิตตี้ อีกด้วย และส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ดเขต 1 ทยอยเดินทางมามอบพวงหรีดแสดงความเสียใจเช่นเดียวกัน 

...

นางสง่า วิชัยศร อายุ 68 ปี แม่ของ นายปรีชา วิชัยศร ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาร่วมงานศพ และกราบขอโทษญาติและครอบครัวของน้องคิตตี้ พร้อมกล่าวว่า บุตรชายของตัวเองเป็นผู้ป่วยทางจิต เป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า มักจะบ่นว่าปวดท้อง ก่อนหน้านี้เคยพยายามผูกคอตายในบ้าน โดยมีอาการประสาทอ่อนๆ และได้มีการรักษาจิตเวชที่ รพ.ร้อยเอ็ด ทั้งนี้ ลูกชายได้เลิกกะแฟน ประมาณ 10 ปี แล้วมักมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนบ้านเป็นประจำ หลายเรื่องเช่นระแวงว่า เพื่อนบ้านเอายาเบื่อมาใส่โอ่งน้ำในบ้าน ล่าสุดโดนคดีอาวุธปืนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เพิ่งออกคุกได้ 9 วัน ก็มาโดนคดีก่อเหตุฆ่าน้องคิตตี้ในครั้งนี้

ขณะที่ญาติๆ เพื่อนบ้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า คุณพ่อของน้องคิตตี้ ไปรับจ้างเก็บส้มทางภาคเหนือ ขณะนี้ยังไม่ทราบข่าวการเสียเสียชีวิตของลูกสาว อยู่ระหว่างกำลังพยายามติดต่อกันอยู่ ส่วนคุณแม่ไม่ได้อยู่ร่วมกันในครอบครัวนานมากแล้วตั้งแต่น้องเป็นเด็ก น้องคิตตี้อาศัยอยู่กับแม่น้าเป็นคนเลี้ยงดู เพราะคุณพ่อไปบวชเมื่อก่อนหน้านี้เพื่อแก้ดวงชะตาเนื่องจากว่า ได้เกิดเหตุคนใกล้ชิดเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องหลายคน หลังจากสึกออกมาไม่นานก็ได้ให้น้อง อาศัยอยู่กับน้าตนเองก็เดินทางไปรับจ้างเก็บผลส้ม ทางจังหวัดภาคเหนือจนถึงวันที่เกิดเหตุ

จากนั้น ทีม พม.จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่บ้านของผู้เสียชีวิต และมีการประสานการทำงานร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ทำการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและครอบครัว ประสานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดแจ้งสิทธิของผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ค่าช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นประมาณ 110,000 บาท โดยจะนำเข้าคณะอนุกรรมการ พิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาในคดีอาญา ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อไป

...

ขณะเดียวกัน ทีม One home ร้อยเอ็ด วางแผนช่วยเหลือเงินเยียวยาเบื้องต้นโดยให้เงินสงเคราะห์ครอบครัวกรณีฉุกเฉินและจัดทำรวบรวมรายชื่อเด็กนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกในการที่จะลงติดตามให้คำปรึกษาแนะนำและช่วยเหลือครอบครัวของเด็ก 3.โรงพยาบาลร้อยเอ็ดจะส่งทีมจิตแพทย์ลงพื้นที่ดูแลสภาพจิตใจเบื้องต้น

นายเดชา ไชยคำมิ่ง ผู้แทนสำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ลงมาดูแจ้งสิทธิ์ให้แก่ทายาทผู้เสียหายในด้าน พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ในการแจ้งสิทธิ์เบื้องต้นทางทายาทผู้เสียหายได้รับทราบซึ่งเป็นแนวทางให้การเยียวยาให้แก่ผู้เสียหายเบื้องต้น ที่ 110,000 บาทในส่วนนี้ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือกรรมการประจำจังหวัดก่อน

ด้าน นางปราณี ปทุมมา หน.พมจ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า เรามีบ้านพักเด็กและครอบครัวโดยเราก็จะมีเงินช่วยเหลือครอบครัวให้น้องและคุณแม่ของน้องหรือในเรื่องของการช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพและด้านอื่นๆ ก็จะลงมาพูดคุยรวมถึงการดูแลน้องๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ซึ่งต่างคนได้ตื่นตระหนกและเสียขวัญทางโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และ สสจ. ก็ได้มีตัวแทนเข้าพื้นที่มีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ลงมาช่วยพูดคุยกับน้องๆ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนก็จะได้คลี่คลายกับสิ่งที่รู้สึกเสียใจ และสิ่งที่เผชิญต่อเหตุดังกล่าว ส่วนเรื่องของคุณแม่และครอบครัวผู้เสียหาย พม.ร้อยเอ็ด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องก็จะนำเข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง

...

ในเบื้องต้นมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ 20-30 คนในชั้นต้นเรากำลังไล่ชื่อน้องๆ เพราะว่าเหตุเกิดแล้วก็กระจัดกระจายพร้อมกับครูเวรที่คอยต้อนรับนักเรียนส่วนหนึ่งก็ตามมาได้ได้ชื่อที่อยู่เบอร์โทรบ้านเลขที่ของน้องๆหลังจากเราได้รับข้อมูลแล้วเราก็จะลงไปให้กำลังใจให้ข้อมูลและคุยกับน้องพร้อมครอบครัวในช่วงของบ่ายวันนี้ ซึ่งอาการเด็กในตอนนี้มีการตื่นตระหนก และหวาดกลัวไม่ใช่เฉพาะเด็กรวมทั้งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะรถรับส่งนักเรียนได้เลี้ยวเข้าไปในบริเวณโรงเรียน และมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งครูที่ยืนเรียงแถวรับเด็กนักเรียนในระหว่างเด็กที่จะลงรถผู้ก่อเหตุก็วิ่งสวนขึ้นไปบนรถทำให้ทุกคนช็อกเพราะที่สำคัญผู้ก่อเหตุแทนต่อหน้าต่อตาเด็กทุกคน

และเด็กที่เห็นเหตุการณ์ก็ช็อกมาก อาจารย์ที่อยู่ในแถวซึ่ง ผอ.โรงเรียนก็ช็อกเช่นเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะเข้ามากระทำในโรงเรียนเพราะว่าทุกคนมองว่าโรงเรียนเป็นเขตโซนมากที่สุดและด้วยผู้ปกครองมาส่งนักเรียนคนอื่นๆ ด้วยทางอาจารย์ทางครูก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุดังนี้ซึ่งเท่าที่ตนสอบถามได้มีคำตอบว่าผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปและจับมือเด็กผู้ชายอีกคนนึงก่อนที่จะมาถึงน้องคนนี้แต่ผู้ชายคนนั้นสะบัดแขนออกได้ และมาคว้าน้องคนนี้ แต่สะบัดไม่ออกจึงเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งสอบถามดูแล้วว่าเหตุไม่เคยได้โกรธเคืองกันโดยคิดว่าเป้าหมายผู้ก่อเหตุใครก็ได้เผอิญน้องคนที่เสียชีวิตสะบัดแขนไม่หลุดจึงเกิดเหตุสลดดังกล่าว

...

นายวัลลภ นาเมืองรักษ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กล่าวว่า จากการสอบถามพบว่า มีนักเรียนที่อยู่บนรถรับส่งนักเรียนจำนวน 20 คน ซึ่ง พม.ก็ให้นักจิตนักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่ก็ให้ทีมนักจิตนักสังคมสงเคราะห์ เข้าพื้นที่ให้คำปรึกษาและก็ดูแลแม่ของผู้เสียหาย และกลุ่มเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเหตุการณ์วันนี้ทำให้หลายคนช็อก ซึ่งในชุมชนไม่ได้มีการขัดแย้งกัน เพราะแม่ผู้ก่อเหตุก็เป็นหมู่บ้านเดียวกันนี้ซึ่งช่วงเช้าหลังเกิดเหตุ เราก็ได้แยกแม่ผู้ก่อเหตุออกไป เพราะกลัวจะโดนลงประชาทัณฑ์

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชาวบ้านก็สามารถแยกออกได้ว่า เหตุที่เกิดมันไม่เกี่ยวกันกับผู้เป็นแม่ ชาวบ้านทุกคนก็เสียใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่อยู่บนรถ เพราะเหตุการณ์คือเด็กโดนแทงบนรถนักเรียนก่อนแล้วค่อยลากลงมาข้างล่าง แล้วค่อยแทงซ้ำ ซึ่งเด็กที่อยู่บนรถประมาณ 20 คนซึ่งหน่วยงาน พม.ก็ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลร้อยเอ็ด สสจ.ร้อยเอ็ด เพื่อที่จะให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลเยียวยาจิตใจพร้อมกับเขตพื้นที่การศึกษา 1 ร้อยเอ็ด ก็เข้ามาร่วมกันมาบูรณาการยุติธรรมจังหวัดเข้ามาดูแลในกรณีผู้เสียหาย

ทราบเบื้องต้นผู้ก่อเหตุป่วยเป็นจิตเวช และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานไม่ถึง 1 อาทิตย์แล้วคนในชุมชนก็จะรู้นิสัยของผู้ก่อเหตุว่าเป็นคนที่ชอบยุ่งกับในด้านของยาเสพติดด้วย ซึ่งคิดว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักและทำร้ายคนในชุมชนหลายคน ทางชุมชนก็ได้แจ้งไปที่สถานีตำรวจแล้วเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามานำตัวไปตักเตือนว่ากล่าวหลายครั้ง จนมาถึงการก่อเหตุครั้งนี้ซึ่งครั้งนี้เป็นหนักมากที่สุด

ขณะที่ นางกฤษฎา วงษาไฮ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนป่วยทางจิตและเพิ่งจะพ้นโทษ ซึ่งก่อนหน้านั้นอยู่ที่บ้านก็จะมีความหวาดระแวงก่อนหน้านั้นก็เคยทำร้ายคนในหมู่บ้านเช่นกันแจ้งตำรวจมานำตัวไปก็หลายครั้ง ซึ่งพอได้ยินข่าวก็มีความตกใจและหดหู่พอสมควรกับเหตุนี้ ซึ่งผู้เสียชีวิตก็เป็นเด็กเป็นเยาวชนที่กำลังน่ารักวัยกำลังสดใสจะเป็นที่พึ่งของครอบครัวได้ ภายในตำบลของเราที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุอย่างนี้ แต่ผู้ก่อเหตุก็เป็นคนที่ทำร้ายร่างกายคนอื่นแต่ก็นิดๆ หน่อยๆ คือโดยตัวเขาเป็นคนที่คอยหวาดระแวงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาคิดว่าคนอื่นจะคอยทำร้ายตัวเองแม้แต่กับข้าวก็ต้องทำกินเองถ้าใครจะเอาไปให้หรือไปซื้อมาจากตลาดผู้ก่อเหตุจะไม่กินเลย โดยก่อนหน้านั้นปีกว่าก็มีวีรกรรมในเรื่องของเอาอุจจาระไปใส่ในแท็งก์น้ำประปาของชาวบ้านที่ใช้กันทุกครัวเรือนมาแล้ว ซึ่งเป็นตนที่สังคมรังเกียจ และไม่ต้องการให้กลับเข้ามาหมู่บ้าน

ส่วน นางพิศมัย นันทเสนา ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา ส.พ.ป.ร้อยเอ็ด เขต 1 เผยว่า หลังทราบเหตุวันนี้ทางเขต 1 ร้อยเอ็ดได้เข้ามาพื้นที่ตั้งแต่เช้า เข้ามาดูและสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทางเขตพื้นที่เราจะได้นำเข้าที่ประชุมและช่วยเหลือนักเรียนผู้เสียหาย เนื่องจากทางเขตการศึกษาเราจะมีศูนย์ศูนย์เฉพาะกิจการช่วยเหลือนักเรียนอยู่ ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้สอบถามทางคณะครูได้แจ้งว่าช่วงเกิดเหตุมีข้างคนได้เข้าไปสอบถามผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้แจ้งว่า ให้ไปสอบถามพ่อแม่ของเด็กดูว่ามีเหตุอันใด.